Tuesday, December 28, 2010

เฟรนช์โทส กลิ่นส้ม


ขนมปังเก่าที่เเห้งเเละเเข็งอย่าเพิ่งทิ้งไป เพราะยังสามารถนำมาทำเป็นของว่างอร่อยๆ อย่าง "เฟรชน์โทส กลิ่นส้ม" ที่เหลืองกรอบชวนรับประทาน ราดด้วยน้ำเชื่อมเมเปิ้ลอุ่นๆ เวลารับประทานจะรู้สึกว่าเนื้อขนมปังนั้นมีคัสตาร์ดเเทรกอยู่ตามรูพรุนของขนมปัง
ส่วนผสม
• ขนมปังหัวกระโหลก หั่นเป็นเเผ่นหนา 1นิ้ว 12-15 เเผ่น
• ไข่ไก่ 4 ฟอง
• นมสด 2 ถ้วย
• ครีมสดเเบบวิปปิ้งครีม 1/3 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
• ผิวส้มซันคิสขูดหรือสับละเอียด 1/2 ช้อนชา
• กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา
• เนย สำหรับทอด 3-4 ช้อนโต๊ะ
• ไอซิ่งเพื่อโรยหน้า
• น้ำเชื่อมเมเปิลปริมาณตามความต้องการของเเขกเเต่ละคน
วิธีทำ
1. ตีไข่ไก่พอเเตก ผสมนมสด ครีม น้ำตาลทราย ผิวส้มเเละกลิ่นวานิลาเข้าด้วยกันเป็นเนื้อเดียว
2. ชุบขนมปังลงในส่วนผสมของไข่ให้ทั่งถึงทั้งสองด้าน วางเรียงในถาด พักไว้ 10 นาทีเพื่อให้ไข่ชุ่มในเนื้อของขนมปังชุ่มไข่
3. ตั้งกระทะเคลือบเทฟล่อนให้ร้อนจัดที่ไฟกลาง ใส่เนยลงไปทีละ 1/4 ช้อนชา เมื่อเนยละลายเป็นฟองเเล้ว ค่อยๆวางขนมปังลงไปในกระทะ ทอดด้านละ 3-5 นาทีหรือจนกว่าด้านนั้นจะกรอบเป็นสีเหลืองทอง เเล้วจึงกลับทอดอีกด้านให้สีสวยเท่ากัน เเล้วจึงตักขึ้นพักบนตะเเกรง
H&C Tip
เฟรนช์โทสสามารถทำไว้ทีละมากๆเเล้วนำมาอุ่นในเตาอบที่อุณหภูมิ 120 องศาเซลเซียส เพื่อให้ร้อนก่อนเสิร์พร้อมกับน้ำเชื่อมเมเปิลที่อุ่นๆ

เค้กครีมชีสส้ม


ภาพแทนของจริงจาก ReE Thank to ReE

สิ่งที่ต้องเตรียม (สำหรับการทำเค้ก)
แป้งสาลีทำเค้ก 200 กรัม แป้งข้าวโพด 20 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนชา วานิลลาชนิดผง 1 ช้อนชา
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา น้ำตาลทราย 220 กรัม
ไข่ไก่แช่เย็น 7 ฟอง โอวาเล็ต 20 กรัม
น้ำเย็น 50 กรัม นมข้นจืด 50 กรัม
เนยสดชนิดเค็มละลาย 100 กรัม
ถาดสำหรับอบขนาด 11*15*1 นิ้ว จำนวน 2 ถาด(ทาเนยขาว รองกระดาษและทาเนยขาวทับ), ส่วนผสมครีมชีสส้ม, ส่วนผสมวุ้นส้ม} ส้มในน้ำเชื่อม, เชอร์รี่แดงในน้ำเชื่อม,ช็อกโกแลตแข็ง, วิปปิ้งครีมตีที่ตีขึ้นฟูและใบสะระแหน่ สำหรับแต่ง

วิธีทำ
- ร่อนแป้งสาลีทำเค้กกับแป้งข้าวโพด ผงฟู วานิลลาชนิดผงและเกลือป่นเข้าด้วยกันเติมน้ำตาลทราย ใช้พายยางคนผสมให้เข้ากัน พักไว้
- ผสมไข่กับกับส่วนผสมแป้งที่ร่อนไว้เข้าด้วยกัน ใช้พายยางคนผสมพอเข้ากัน เติมโอวาเล็ตตีผสมด้วยหัวตีรูปตะกร้อ ใช้ความเร็วต่ำ นานประมาณ 1 นาที เพิ่มความเร็วสูงสุด นานประมาณ2 นาที เติมน้ำเย็น ตีผสมต่อนานประมาณ 2 นาที ลดความเร็วต่ำ ตีพอเข้ากัน นานประมาณ 30วินาที
- เทส่วนผสมเค้กใส่ลงในถาดที่เตรียมไว้ น้ำหนักเค้กถาดละ 500 กรัม นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ400-420 องศาฟาเรนไฮท์ นานประมาณ 8-10 นาที หรือจนกระทั่งสุก จึงนำออกจากเตาพักไว้ให้เย็นสนิท
- สไลซ์เค้กที่อบสุกแล้วออกเป็นสองชิ้น กดเค้กส่วนที่ 1 ด้วยพิมพ์วงแหวนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 นิ้ว เทส่วนผสมครีมชีสส้มลงบนเค้กประมาณ 3/4 ของพิมพ์ นำเข้าตู้เย็นจนครีมชีสส้มอยู่ตัว จึงนำออกมาเรียงกลีบส้มในน้ำเชื่อมให้สวยงาม เคลือบหน้าด้วยส่วนผสมวุ้นส้ม พักไว้จนกระทั่งวุ้นส้มอยู่ตัว นำเข้าตู้เย็นจนถึงเวลารับประทาน (ทำวิธีเดิมกับเค้กชิ้นที่ 2)
- เวลาเสิร์ฟ หั่นเค้กครีมชีสส้มเป็นชิ้น จัดใส่จาน บีบวิปปิ้งครีม แต่งด้วยส้มในน้ำเชื่อมเชอร์รี่แดงในน้ำเชื่อม ช็อกโกแลตแข็งและใบสะระแหน่ให้สวยงาม

ครีมชีสส้ม
สิ่งที่ต้องเตรียม
เจลาตินชนิดผง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำร้อน 50 กรัม
ครีมชีส 250 กรัม น้ำตาลทราย 120 กรัม
น้ำส้มเข้มข้นชนิดชงดื่ม 50 กรัม สีผสมอาหารสีส้ม 1/8 ช้อนชา
ส้มซันคิสต์แกะเฉพาะเนื้อ 100 กรัม มารีน่าวิปปิ้งครีมตีขึ้นฟู 250 กรัม

วิธีทำ
- ละลายเจลาตินกับน้ำร้อนเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
- ตีผสมครีมชีสกับน้ำตาลทรายด้วยหัวตีรูปใบไม้ ใช้ความเร็วปานกลาง นานประมาณ 5 นาทีเติมน้ำส้มเข้มข้นชนิดชงดื่ม สีผสมอาหารสีส้มและเจลาตินที่ละลายน้ำร้อนเตรียมไว้ ตีผสมจนเข้ากันดี
- ผสมส่วนผสมที่ได้กับส้มซันคิสต์และมารีน่าวิปปิ้งครีม คนผสมตะล่อมเบาๆ มือ ด้วยพายยางจนเข้ากันดี เตรียมไว้

วุ้นส้ม
สิ่งที่ต้องเตรียม
ผงวุ้นสำหรับทำขนม 1 ช้อนโต๊ะ น้ำ 500 กรัม
เจลาติน 1 ช้อนชา น้ำตาลทราย 150 กรัม
น้ำส้มเข้มข้นชนิดชงดื่ม 50 กรัม
วิธีทำ
- ต้มส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันจนเดือดทั่วดี ยกลง พักไว้พออุ่น เตรียมไว้สำหรับเคลือบหน้า

เครปซูเซทท์


เครปสูตรนี้เป็นแบบเนื้อบางนุ่ม จุดเด่นอยู่ที่การแช่แผ่นเครปในซอสส้มที่หอมสดชื่นจนชุ่มทั้งแผ่น ถ้ายิ่งกินร้อนๆ คู่กับไอศครีมวานิลาจะยิ่งอร่อยมากขึ้น
ส่วนผสมแป้งเครป
• ไข่ไก่ 1 ฟอง นมสดรสจืด 2/3 ถ้วย
• แป้งเค้ก 1/2 ถ้วย เนยละลาย 1 ช้อนโต๊ะ
• ผิวส้มซันคีสท์ขูดเล็กน้อย
วิธีทำ
1. ตีไข่ไก่กับนมสดให้เข้ากันดี ค่อยๆใส่แป้งคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นเติมเนยละลายและผิวส้มขูด คนเข้ากัน
2. ตั้งกระทะให้ร้อน ทาเนยละลายบางๆ ตักส่วนผสมแป้งเครปด้วยทัพพีกะปริมาณให้ได้ประมาณ 4 ช้อนโต๊ะเทลงกลางกระทะ กลอกเร็วๆให้เป็นแผ่นกลมบาง เมื่อแป้งสุกตึงจึงเขย่ากระทะให้แผ่นแป้งร่อน กลับด้านแล้วทอดต่อให้สุก ตักขึ้นพักไว้
ส่วนผสมซอสซูเซทท์
• น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง น้ำส้มซันคีสท์คั้นสด 1 ลูก( 2/3 ถ้วย)
• น้ำมะนาว 1 ลูก ผิวส้มซันคีสท์หั่นเป็นเส้นยาว 1 ลูก
• เนยละลาย 1 ช้อนโต๊ะ เหล้า Grand Marnier หรือ Rum 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ละลายน้ำตาลในกระทะให้เป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ เติมน้ำส้ม น้ำมะนาวและผิวส้ม คนให้เข้ากัน แล้วเคี่ยวต่อให้พอข้นเหนียวขึ้น ปิดไฟ เติมเนยละลายและเหล้า คนเข้ากัน
2. ใส่แผ่นเครปที่ทอดเตรียมไว้ลงแช่จนชุ่ม ตักขึ้นพับเป็นครึ่งวงกลม แล้วพับครึ่งอีกครั้งให้เป็น 1/4 ของวงกลม ใส่จานไว้เทซอสที่เหลือราดบนแผ่นเครป เสิร์ฟขณะร้อนๆคู่กับไอศครีมวานิลาจะอร่อยยิ่งขึ้น
Tips
- การเทแป้งลงกระทะควรจะเทครั้งเดียวให้หมด แล้วกลอกเร็วๆให้เป็นแผ่นบางกลมเต็มกระทะพอดี
- ปริมาณแป้งที่ใช้ต่อเครปหนึ่งแผ่นในสูตรนี้ จะพอดีกับกระทะเทฟล่อนก้นแบนขนาด 8 นิ้ว แต่ถ้าเปลี่ยนขนาดกระทะจะต้องกะปริมาณแป้งใหม่ให้ได้แผ่นแป้งบางและกลมเต็มกระทะเหมือนเดิม

Mexican Bun


Mexican Bun (18 ชิ้น) เวลาเตรียม 90 นาที เวลาปรุง 15 นาที
ขนมปังบันสไตล์เม็กซิกัน กลิ่นหอมจากครีมราดหน้ารสกาแฟบวกกับเนื้อขนมปังแสนนุ่ม ทำให้โด่งดังแทบฉุดไม่อยู่ แต่เพราะมีส่วนผสมของเนยมากจะทำให้เลี่ยน ต้องกินกับกาแฟรสเข้มอย่างเอสเพรสโซ่ หรือถ้าใครชอบแบบนุ่มหน่อยก็แนะนำเป็น Machiato สักแก้วละกัน

ส่วนผสมไส้
• เนยสดชนิดเค็ม 1 1/4 ถ้วย (200 กรัม)
• กลิ่นวานิลา 1/2 ช้อนชา
• น้ำตาลทรายป่นละเอียด 1/3 ถ้วย (50 กรัม)
• น้ำตาลทรายแดงร่อน 2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
ส่วนผสมหน้า
• เนยสดชนิดจืด 1 1/4 ถ้วย (200 กรัม)
• น้ำตาลไอซิ่ง 3/4 ถ้วย (160 กรัม)
• ไข่ไก่ตีเข้ากัน 3 ฟอง
• กาแฟสำเร็จรูป(Instant coffee) 3 ช้อนโต๊ะ
• ผงอบเชย 1/4 ช้อนชา
• แป้งอเนกประสงค์ร่อน 2 ถ้วย (150 กรัม)
ส่วนผสมบัน
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 5 3/4 ถ้วย (500 กรัม)
• น้ำตาลทรายป่น 1/2 ถ้วย (80 กรัม)
• เกลือป่น 1 ช้อนชา (6 กรัม)
• ยีสต์ผงสำเร็จรูป 1 ช้อนโต๊ะพูน (8 กรัม)
• ไข่ไก่ตีเข้ากัน 1 ฟอง
• นมสดชนิดจืด 1 ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ (270 กรัม)
• เนยสดชนิดจืด 1/2 ถ้วย (60 กรัม)
วิธีทำ
1. เตรียมส่วนไส้ โดยตีเนยให้ขึ้นฟู ใส่กลิ่นวานิลาและน้ำตาลทรายแดง ผสมให้เข้ากัน แช่เย็นไว้ให้แข็ง
2. ผสมส่วนหน้าโดยตีเนยกับน้ำตาลไอซิ่งจนฟูเบา ใส่ไข่ กาแฟและผงอบเชย ตีให้เข้ากัน เติมแป้งลงผสมให้เข้ากันดี คลุมด้วยพลาสติกห่ออาหารเก็บเข้าตู้เย็นไว้
3. นำส่วนไส้ออกมาตักแบ่งเป็นก้อน ก้อนละ 15 กรัม นำกลับไปแช่เย็นไว้
4. ทำส่วนบัน โดยเริ่มจากแช่ยีสต์ในนมสดไว้ประมาณ 5 นาที ผสมแป้ง น้ำตาลทราย เกลือและไข่เข้ากัน แล้วค่อยๆเทส่วนผสมนม นวดให้เข้ากันประมาณ 5 นาที จากนั้นใส่เนยลงไปแล้วนวดต่ออีกประมาณ 5 นาที จนก้อนแป้งเนียนนุ่มไม่ติดมือ
5. แบ่งก้อนแป้งเป็นก้อนละ 50 กรัม คลึงให้เนียนกลม พักไว้ 10 นาที และใช้ผ้าขาวบางหมาดๆคลุมหน้าไว้
6. เมื่อครบเวลาใช้มือกดก้อนแป้งให้แบนเพื่อไล่อากาศ และวางไส้ที่เตรียมไว้ตรงกลาง รวบปิดแผ่นแป้งให้มิด
7. วางเรียงบนถาดอบที่ปูรองด้วยกระดาษไข โดยเรียงให้ห่างกัน 8 เซนติเมตร แล้วใช้ผ้าขาวบางคลุมหน้าไว้ 45 นาที เปิดเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส
8. เมื่อพักจนครบเวลา ให้ตักส่วนผสมหน้าที่แช่เย็นไว้ใส่ถุงบีบ บีบลงบนหน้าขนมโดยขดเป็นเกลียวก้นหอย นำเข้าอบ 10 – 13 นาที หรือจนขนมเป็นสีน้ำตาลหอม นำออกจากเตา เสิร์ฟได้ขณะร้อนๆ

Tuesday, September 14, 2010

พุดดิ้งมะม่วง


มะม่วงเป็นผลไม้ไทยที่ทำขนมฝรั่งได้อร่อย พุดดิ้งมะม่วงสูตรนี้ผสมกับเจลาตินและวิปปิ้งครีม นำไปแช่เย็นจนแข็ง แล้วนำมากินกับข้าวเหนียวมูน
ส่วนผสม
• น้ำเปล่า 1 ถ้วย
• น้ำแข็งก้อนเล็ก 1 ถ้วย
• มะม่วงสุกหั่นเต๋า 1 ผล
• มะม่วงสุกสำหรับปั่น 1 ผล
• น้ำตาลทรายขาว 1/3 ถ้วย
• แผ่นเจลาติน 7 แผ่น
• วิปปิ้งครีม 1/2 ถ้วย
• ข้าวเหนียวมูนขาวและดำ ตามชอบ
วิธีทำ
1. นำแผ่นเจลาตินแช่ในน้ำเย็นจนนิ่ม
2. ผสมน้ำตาลและน้ำเปล่าตั้งไฟให้ร้อน ใส่เจลาตินที่แช่น้ำไว้ลงไปคนให้ละลายเข้ากัน
3. ปิดเตาไฟหรือยกหม้อออกจากเตา ใส่น้ำแข็งลงในส่วนผสมน้ำตาล (ข้อ 2) คนให้น้ำแข็งละลาย
4. ใส่มะม่วงที่ปั่นไว้ลงไป แล้วตามด้วยมะม่วงที่หั่นเป็นลูกเต๋า
5. ใส่วิปปิ้งครีมลงในส่วนผสม คนให้เข้ากัน แล้วตักใส่พิมพ์
6. นำแช่ในตู้เย็นไว้จนแข็งประมาณ 2-3 ชั่วโมง รับประทานกับข้าวเหนียวมูลขาวหรือดำตามชอบ
H&C Tip
- ใส่น้ำแข็งแทนน้ำเปล่า เพราะจะช่วยไม่ให้มะม่วงไม่เละ และเป็นสีดำ

Mango and orange sherbet


เชอร์เบทผลไม้ไทย รสหวานอมเปรี้ยวถ้วยนี้ เป็นสูตรง่ายๆที่ไม่ต้องใช้เครื่องทำไอศครีม แต่ใช้ไข่ขาวตีให้ขึ้นฟูแทนเท่านั้น ก็จะได้เชอร์เบทผลไม้โฮมเมดไว้กินที่บ้านอย่างเปรมปรีด์
ส่วนผสม
• มะม่วงน้ำดอกไม้สุกผลใหญ่ 2 ผล (จะใช้ชนิดอื่นก็ได้ตามชอบ แต่ควรมีรสหวาน)
• น้ำส้มซันคิส 1 ผล
• น้ำมะนาว(ไม่ใส่ก็ได้) 1 ช้อนโต๊ะ
• ไข่ขาว 1 ฟอง
• น้ำตาลทรายบดละเอียด 1/2 ถ้วย
• น้ำสะอาด 1/4 ถ้วย
วิธีทำ
1. ทำน้ำเชื่อมโดยผสมน้ำตาลทรายกับน้ำสะอาดเข้าด้วยกัน นำไปตั้งไฟอ่อนคนให้น้ำตาลละลายจนหมด พักไว้ให้เย็น
2. ปอกเปลือกมะม่วงหั่นมะม่วงให้เป็นชิ้นเล็ก เสร็จแล้วนำไปปั่นรวมกับน้ำส้ม น้ำมะนาว และน้ำเชื่อมจนเนื้อเนียนละเอียด แล้วนำไปแช่ในช่องแช่แข็งนานประมาณ 2 ชั่วโมงหรือให้แข็งประมาณ 50 %
3. ใช้หัวตระกร้อตีไข่ขาวให้ขึ้นฟู แล้วนำไปผสมกับเนื้อมะม่วงกับส้มที่แช่แข็งไว้ จากนั้นตีด้วยสปีดสูงให้เข้ากันอีกครั้ง(ไม่ต้องนานมากเพราะถ้าจะคืนตัว) เสร็จแล้วนำไปแช่ในช่องแข็งจนเย็นจัด แล้วจึงตักเสิร์ฟ

Wednesday, August 18, 2010

4 minute hot choc cake


เค้กช็อกโกแลตร้อนเนื้อฉ่ำที่ประยุกต์ใหม่เพื่อเอาใจมือสมัครเล่นให้อบเค้กได้แบบไม่ต้องง้อเตาอบ แต่หันมาใช้ความร้อนจากคลื่นไมโครเวฟแทน แถมส่วนผสมไม่วุ่นวาย ขั้นตอนก็ไม่ซับซ้อน ทั้งง่าย ทั้งอร่อยอย่างนี้จะลองทำดูสักครั้งไหมคะ

4 minute hot choc cake (เวลาเตรียม 5 นาที เวลาปรุง 4 นาที)
ส่วนผสม (8 ชิ้น)
• ดาร์กช็อกโกแลต 300 กรัม
• เนยสดชนิดจืดหั่นเป็นชิ้นเล็ก 227 กรัม (1 ก้อนเล็ก)
• น้ำตาลทราย 180 กรัม
• ไข่ไก่เบอร์ 2 ทั้งฟอง 5 ฟอง
• แป้งสาลีสำหรับทำเค้ก 3 ช้อนโต๊ะ
• ผงฟู 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. ละลายช็อกโกแลตด้วยไมโครเวฟระดับ Medium นาน 1 1/2 นาที เติมเนยสดลงผสมแล้วนำเข้าไมโครเวฟอีก 1/2 นาที
2. ตีไข่ไก่กับน้ำตาลทรายจนไข่ขึ้นฟูคล้ายครีม แล้วเทส่วนผสมช็อกโกแลต(ข้อ 1)ลงผสมคนเร็วๆให้เข้ากัน เติมแป้งและผงฟู คนให้เข้ากันระวังอย่าให้แป้งเป็นเม็ด เทใส่พิมพ์เซรามิคหรือพลาสติกทนร้อนประมาณ 2/3 ของพิมพ์
3. นำเข้าไมโครเวฟระดับ Medium-High นาน 2 นาทีจนสุก นำออกมาพักไว้ให้เย็นลงสักครู่จึงแซะออกจากพิมพ์ โรยหน้าด้วยไอซิ่ง เสิร์ฟพร้อมสตรอว์เบอร์รี่หรือวิปปิ้งครีม
H&C Tips
• ดาร์กช็อกโกแลตที่ใช้ควรเลือกชนิดที่มีโกโก้ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะมีกลิ่นหอมของโกโก้กำลังดีและไม่ขมจนเกินไป แต่ข้างกล่องมักไม่ระบุไว้ว่ามีกี่เปอร์เซ็นต์ วิธีเลือกให้สังเกตสีว่าถ้ายิ่งสีเข้มแสดงว่ามีเปอร์เซ็นต์โกโก้สูง จะยิ่งหอมและขมมากขึ้น
• ถ้ากินเค้กไม่หมดสามารถนำกลับมาอุ่นใหม่ในไมโครเวฟระดับ High นาน 20 วินาทีได้ แต่ต้องระวังอย่านานเกินไปเพราะเค้กจะแข็ง

Cinnamon Roll



ส่วนผสมขนมปัง
แป้งสาลีทำขนมปัง(ตราห่าน) 500กรัม
แป้งสาลีชนิดเบา (บัวแดง) 500 กรัม
ยีสต์ 15 กรัม
นมผง 50 กรัม
ไข่ไก่ 100 กรัม(2 ฟองกลาง)
น้ำตาลทราย 100 กรัม
เนยสดตราออร์คิดชนิดจืด 100 กรัม
เกลือ 1ช้อนชา
น้ำเปล่า 3ถ้วย

ส่วนผสมอื่น
เนยสดตราออร์คิดชนิดจืด 50 กรัม
น้ำตาลทรายแดง 50 กรัม
ผงซินนามอน (อบเชยป่น) สำหรับโรยขนมปัง
ลูกเกด 50 กรัม
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 50กรัม
น้ำตาลทรายโรยหน้า 50 กรัม

วิธีทำ
-ร่อนแป้ง 2 ชนิดให้เข้ากัน ใส่ยีสต์ และส่วนผสมต่าง ๆ ลงในโถปั่น เติมน้ำลงไป ตีใช้ความเร็วปานกลาง จนกระทั่งเนียนดี ใช้เวลาประมาณ 20 นาที นำออกมาพักไว้ 10-15 นาที หรือพอแป้งขึ้น
-นำแป้งมาแผ่เป็นแผ่นบางๆ สี่เหลี่ยมผืนผ้า ทาเนยสดโรยด้วยน้ำตาลทรายแดง อบเชยป่น ลูกเกด เม็ดมะม่วงหิมพานด์ม้วนให้แน่น
-ตัดโรลเป็นชิ้นหนาประมาณ 2-3 นิ้ว โรยน้ำตาลข้างบน ใส่พิมพ์ นำเข้าเตาอบ อบไฟ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 20-25 นาที หรือจนเหลือง

หมายเหตุ
ถ้าชอบหวานยิ่งขึ้น เมื่อขนมอบเสร็จโรยหน้าด้วยน้ำตาลไอซิ่งละลายน้ำ ให้เป็นเส้น
ดัดแปลงเป็นไส้อื่นๆ ได้หลายไส้ เช่น ไส้ชอคโกแลต ไส้ชอคโกแลตชิพ ไส้บลูเบอร์รี่ ไส้แอปเปิ้ลซอส ไส้ผลไม้สด ผลไม้เชื่อม
ตัวขนมปัง ถ้าหมักให้ขึ้นมากจะได้ซินนามอนโรลที่เนื้อนิ่ม ฟู ถ้าต้องการให้กรอบไม่ต้องหมักนาน แป้งขนมปังนี้ยังสามารถนำไปทำขนมปังอื่นๆ ได้ตามต้องการ

Saturday, August 14, 2010

Delicious Chocolate Whip Cream Cake


แป้งสาลีทำเค้ก 250 กรัม
แป้งข้าวโพด 20 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนชา
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
โกโก้ผง 20 กรัม
ไข่ไก่แช่เย็น 7 ฟอง
น้ำตาลทราย 260 กรัม
โอวาเล็ต 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 100 กรัม
เนยสดชนิดเค็มละลาย 150 กรัม
วิปบ์ครีมสำหรับแต่งหน้า
ช็อกโกแลตแต่งหน้า
วิธีทำ
- ร่อนแป้งสาลีทำเค้ก แป้งข้าวโพด ผงฟู เกลือป่น และโกโก้ผงเข้าด้วยกัน
- ตีไข่ไก่ กับส่วนผสมแปงที่ร่อนเตรียมไว้ น้ำตาลทราย โอวาเล็ต และน้ำ ความเร็วสูงสุก จนส่วนผสมขึ้นฟูข้น
- ลดความเร็วต่ำ เติมเนยละลาย ตีผสมจนเข้ากันดี เทใส่พิมพ์ 8 x 1 1/2 นิ้ว จำนวน 2 พิมพ์ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 330 - 350 องศาฟาเรนไฮด์ นาน 20 - 25 นาที หรือจนสุก พักไว้จนเย็นสนิท
- เคลือบหน้าเค้กด้วยวิปบ์ครีม และแต่งข้างเค้กด้วยช็อกโกแลตไรซ์
- แต่งหน้าเค้กให้สวยอีกครั้งด้วยช็อกโกแลตแข็งละลาย ที่ทำเป็นใบ และดอกกุหลาบ

ชอคโกแลตโรล


ส่วนผสม
- ไข่ไก่ 5 ฟอง แยกไข่แดงไข่ขาว ทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง
- น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
- แป้งเค้ก 1/3 ถ้วย
- ผงฟู 1/2 ชช.
- ผงโกโก้ ชนิดไม่หวาน 1/4 ถ้วย
- วิปปิ้งครีม 1 ถ้วย แช่เย็นๆ
- น้ำตาลไอซิ่ง 3-4 ชต.

วิธีทำ
- อุ่นเตาอบที่ 375 องศาฟาเรนไฮต์ รองพิมพ์ด้วยกระดาษไขไว้ พิมพ์นี่ก็แล้วแต่ขนาดนะคะ ตอนที่ทำได้เค้ก 1 ถาดใหญ่ กับอีก 1 ถาดเล็ก แต่ไม่เคยวัดขนาดถาดซักกะที
- ร่อนแป้งเค้ก+ผงโกโก้+ผงฟู+ผงโกโก้ เข้าด้วยกัน พักไว้
- ตีไข่แดง+น้ำตาลทรายให้ขึ้นฟูดี จากนั้นค่อยๆเติมส่วนแป้งลงไป ผสมให้เข้ากัน
- ตีไข่ขาวให้ตั้งยอดแข็ง แบ่ง 1/4 ของไข่ขาวที่ตีได้ แล้วนำไปผสมกับส่วนไข่แดง คนเบาๆให้เข้ากันดี จากนั้นจึงเติมไข่ขาวที่เหลือทั้งหมดลงไป คนตะล่อมพอให้เข้ากัน
- เทใส่พิมพ์ นำไปอบ ประมาณ 15 นาที สุกแล้วนำออกจากเตา ทิ้งไว้ให้เย็นในพิมพ์ ประมาณ 5 นาที แล้วจึงแซะออกจากพิมพ์ ปาดด้วยไส้วิปปิ้งครีม และผลไม้ตามชอบ จากนั้นจึงม้วนให้แน่นและแช่ตู้เย็นไว้ 2-3 ชม.ก่อนตัด

Chocolate berry fudge


แค่ได้ยินคำว่า “ช็อกโกแลต” เป็นใครก็ต้องทำตาโต เพราะนี่คือแชมป์ของหวานที่คนทั่วโลกถวิลหาอยู่ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเอาไปทำอะไรก็อร่อยทั้งนั้น แล้วใครเล่าจะอดใจไหว

สูตรขนมคราวนี้พิเศษแบบง่ายๆ เพียงเติมแยมเบอร์รี่เป็นลูกเล่น ผสมกับช็อกโกแลตเข้มขม ที่กอดคอเข้าขาช่วยกันอร่อยได้อย่างประหลาด ที่สำคัญขนมหวานแก้วนี้ทำอย่างไรก็อร่อยและหน้าตาดูดีควรค่าแก่การให้เป็นของฝากเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนผสม (6 ที่)
• ดาร์กช็อกโกแลต 200 กรัม
• แยมผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ 1/4 ถ้วย (เช่น สตรอเบอรี่ ราสป์เบอร์รี่ )
• วิปปิ้งครีม 1/3 ถ้วย
• นมสดรสจืด 1/3 ถ้วย
• เหล้าบรั่นดี (ไม่ใส่ก็ได้) 2 ช้อนโต๊ะ
• คุกกี้รสนม 200 กรัม
• วิปปิ้งครีมและผลเบอร์รี่สำหรับตกแต่ง
วิธีทำ
1. บดคุกกี้ให้พอแหลก อย่าให้ป่นมากเพราะจะทำให้เนื้อแน่นไป ตักคุกกี้รองที่ก้นแก้ว พักไว้
2. หั่นช็อกโกแลตเป็นชิ้นเล็ก ใส่ลงในหม้อที่วางบนน้ำร้อน ตุ๋นให้ละลายด้วยไฟอ่อน เมื่อละลายดีแล้ว เติมแยมสตรอเบอร์รี่ วิปปิ้งครีมและนมสด คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน ยกลงจากเตาแล้วเติมเหล้าบรั่นดี คนพอเข้ากัน
3. เทช็อกโกแลตลงในแก้วที่ใส่คุกกี้เตรียมไว้จนเกือบเต็มแก้ว นำไปแช่เย็นประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนเสิร์ฟให้บีบวิปปิ้งครีมและตกแต่งด้วยผลเบอร์รี่ตามชอบ
H&C Tips
- ควรใช้แก้วขนาดเล็กประมาณ 4-6 ออนซ์ อย่าใช้ใบใหญ่มากนัก เพราะขนมมีรสชาติเข้มข้น ควรเสิร์ฟในปริมาณน้อย
- ผลเบอร์รี่ที่ใช้ตกแต่งควรมีรสชาติค่อนข้างเปรี้ยว จะช่วยตัดรสได้ดีขึ้น

Monday, July 26, 2010

ชีสเค้ก cheesecake supreme

รูปแทนเพื่อสร้างสีสรรค์
ส่วนผสม
1. cream cheese 1.25 pounds หรือ 20 oz หรือ 567 กรัม
2. น้ำตาล 7/8 ถ้วย
3. ไข่ 4 ฟอง
4. กลิ่นวานิลา 1.5 ช้อนชา
5. กลิ่นมะนาว 2 ช้อนชา
6. แป้งทำเค้ก 1/3 ถ้วย
7. heavy cream 1 ถ้วย

วิธีทำ
1. ตี cream cheese จนเป็น ครีมๆ แล้วจึงผสม น้ำตาล 1/2 ของที่มี ไข่แดง กลิ่นวานิลา กลิ่นมะนาว แป้งทำเค้ก ตีจนเข้ากันดี (ตี ใช่ความเร็วต่ำๆ และเวลาใส่ไข่ใส่ที่ละฟอง)
2. ตี ไข่ขาว กับ น้ำตาลที่เหลือ
3. ค่อยๆผสม ไข่ขาวที่ตีกับน้ำตาล กับส่วนผสมในข้อ1 คนให้เข้ากัน (ไม่ต้องตีแล้ว)
4. ผสม heavy cream กับส่วนผสมข้อ3 คนให้เข้ากัน (ไม่ต้องตีแล้ว)
5. เท ส่วนผสมใส่ถาด ขนาดประมาณ เส้นผ่านศุนย์กลาง 9 นิ้ว แล้วนำไปอบที่ไฟ 300 Fเป็นเวลา1 ชม. แล้วทิ้งให้เย็นในเตาอบอีก 1 ชม.

คาราเมลคัสตาร์ด


รูปแทน

เครื่องปรุง
1. นมสดชนิดจืด 2 ถ้วย
2. วานิลลา 1 ช้อนชา
3. ไข่แดงของไข่ไก่ 2 ฟอง
4. ไข่ไก่ทั้งฟอง 2 ฟอง
5. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
6. เกลือป่น 1/8 ช้อนชา

วิธีทำ
1. เปิดเตาอบให้ร้อนเตรียมไว้ที่ 200 องศาเซลเซียส
2. ทำคาราเมลเตรียมไว้โดยตวงน้ำตาล 1/2 ถ้วยใส่พิมพ์อะลูมิเนียม พิมพ์ละ 2 ช้อนโต๊ะ ตั้งไฟอ่อน ค่อยๆ เอียงให้น้ำตาลไหลไปทั่วพิมพ์จนละลายหมดและมีสีน้ำตาลอ่อน ระวังอย่าให้ไหม้ พักไว้
3. ทำคัสตาร์ดโดยผสมนมจืดกับวานิลลา ตั้งไฟอ่อนให้เดือด ยกลง พักไว้
4. ผสมไข่ไก่กับน้ำตาลที่เหลือในชามผสม ตีพอไข่แตก ค่อยๆ เทนมในข้อ 3 ลงไป ระวังอย่าให้ไข่สุก ใส่เกลือ ผสมให้เข้ากัน เทลงในพิมพ์คาราเมลที่เตรียมไว้
5. วางพิมพ์ในถาดขอบสูง เทน้ำร้อนใส่ถาดให้มีระดับน้ำเท่ากับระดับส่วนผสมในพิมพ์ นำถาดไปตั้งไฟ พอเริ่มเดือดจึงนำถาดไปใส่เตาอบประมาณ 40 นาทีหรือจนสุก ยกออก ตั้งไว้ให้เย็นจึงนำเข้าตู้เย็น
6. เมื่อจะเสิร์ฟจึงนำพิมพ์ขนมออกจากตู้เย็น กรีดขอบด้านในพิมพ์ด้วยมีด นำจานที่จะจัดขนมเสิร์ฟคว่ำปิดลงบนพิมพ์ แล้วพลิกจานกลับให้หงายขึ้น เสิร์ฟ

บราวนี่สูตรใหม่ของคนรักสุขภาพ


ขนมอบอร่อยๆ อย่างบราวนี่เค้กรสโกโก้ เป็นของหวานที่กินไม่รู้อิ่ม ทำให้สาวๆ หลายคนต้องบอกผ่าน เพราะกลัวอ้วน และเสียสุขภาพ แต่สำหรับบราวนี่สูตรนี้คงหมดห่วงได้ เพราะใช้แป้งโฮลวีทแทนแป้งสาลีทั่วไป และใส่คอร์นเฟลกส์กับลูกเกดลงไปด้วย
ส่วนผสม
• เนยสดจืด 100 กรัม
• ผงโกโก้ 60 กรัม
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• น้ำตาลทราย 100 กรัม
• น้ำตาลทรายแดง 100 กรัม
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
• แป้งสาลีโฮลวีท 50 กรัม
• ถั่วอัลมอนด์สับหยาบ 80 กรัม
• ลูกเกด 60 กรัม
• คอร์นเฟลกส์ 80 กรัม
• ช็อกโกแลตนมและคอร์นเฟลกส์สำหรับแต่งหน้า
วิธีทำ
1. เปิดเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้
2. เตรียมพิมพ์อบแบบวงกลมขนาด 2 ปอนด์ รองพิมพ์ด้วยกระดาษไข
3. นำเนยมาตั้งไฟให้ละลาย ยกลงจากเตาแล้วใส่ผงโกโก้ คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
4. ตีไข่ น้ำตาลทราย น้ำตาลทรายแดง และกลิ่นวานิลลา ด้วยเครื่องตีไฟฟ้าจนขึ้นฟูเล็กน้อย เทโกโก้ลงผสมให้เข้ากันดี
5. ค่อยๆโรยแป้งสาลีโฮลวีทลงผสม ตะล่อมเบาๆให้เข้ากัน เติมถั่วอัลมอนด์ ลูกเกด และคอร์นเฟลกส์ คนพอเข้ากัน
6. เทส่วนผสมใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ แต่งหน้าด้วยช็อกโกแลตและคอร์นเฟลกส์ นำเข้าเตานานประมาณ 30 นาที นำออกจากเตา รอจนเย็นจึงแกะออกจากพิมพ์ ตัดชิ้นตามใจชอบ

Bread and Chocolate Pudding


(8 ชิ้น) เวลาเตรียม 10 นาที เวลาปรุง 40 นาที
Bread and Chocolate Pudding ขนมที่ทำง่ายๆ มีส่วนผสมไม่กี่อย่าง แค่ลองค้นกรุสมบัติในตู้เย็นหาขนมปังที่ยังตกค้างอยู่สักก้อนกับช็อกโกแลตที่เหลือจากวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาสักหยิบมือ ก็รับรองว่าทำได้แล้ว
พุดดิ้งสูตรนี้จะเสิร์ฟแบบยังร้อนๆ มีควันฉุยหอมกลิ่นช็อกโกแลต หรือจะกินแบบเย็นๆ คู่กับช็อกโกแลตร้อนรสเข้มสักแก้วก็เข้าท่า

ส่วนผสม
• ขนมปังชนิดใดก็ได้หั่นเต๋า 200 กรัม (เช่น ครัวซองหรือเค้กเนย)
• ช็อกโกแลตชิป 1 1/2 ถ้วย
• ลูกเกด 1/2 ถ้วย
• นมสดชนิดจืด 1 ถ้วย
• วิปปิ้งครีม 1/2 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
• ไข่ไก่ทั้งฟอง 6 ฟอง
• ผงคัสตาร์ดพาวเดอร์ 3 ช้อนโต๊ะ
• กลิ่นวานิลา 1/4 ช้อนชา
วิธีทำ
1. เปิดเตาอบอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้
2. ใส่ขนมปัง ช็อกโกแลตและลูกเกด ลงในถ้วยอบเซรามิก พยายามเฉลี่ยให้เท่ากันทุกถ้วย
3. ผสมนมและน้ำตาลตั้งไฟให้พออุ่น คนจนน้ำตาลละลายหมด เติมวิปปิ้งครีม ผงคัสตาร์ดพาวเดอร์และกลิ่นวานิล คนให้เข้ากัน พักไว้
4. ตีไข่ไก่ให้เข้ากัน แล้วเทใส่ในส่วนผสมข้อ 3 คนให้เข้ากัน จากนั้นเทส่วนผสมใส่ถ้วยอบที่เตรียมไว้จนเกือบเต็มถ้วย
5. นำเข้าอบโดยวางใส่ถาดที่หล่อน้ำไว้ อบนาน 40 นาที เมื่อขนมสุก นำออกจากเตา พักไว้ให้เย็นลง
H&C Tips
- ถ้าใช้เค้กเนยอาจต้องลดปริมาณของช็อกโกแลตลงเล็กน้อย เพราะเนื้อเค้กหวานอยู่แล้ว
- จะใช้ช็อกโกแลตชนิดดาร์กช็อกโแลต ช็อกโแลตนม หรือไวท์ช็อกโกแลต ก็ได้ตามชอบ

Wednesday, July 14, 2010

บลูเบอรี่ครีมชีสพาย


สูตรนี้ยังใช้แป้งพายแบบง่ายๆเหมือนเดิม เนื้อครีมชีสเนื้อนุ่มรสหวาน มัน อมเปรี้ยวนิดๆ ซ่อนด้วยกลิ่นหอมสดชื่นจากผิวส้ม ช่วยตัดรสให้กลมกล่อมมากขึ้น ราดหน้าปิดท้ายด้วยบลูเบอรี่รสหวานหอมในน้ำเชื่อม สามส่วนสามรสผสมผสานกันอย่างลงตัว มีทั้งหอม หวาน มัน เปรี้ยวและเค็มนิดๆ เรียกว่าครบรสชาติในชิ้นเดียว
ส่วนผสม
• แครกเกอร์ป่นละเอียด 125 กรัม
• เนยละลาย 80 กรัม
• คราฟครีมชีส (1 กล่อง) 250 กรัม
• นมข้นหวาน 150 กรัม
• วิปปิ้งครีม 100 กรัม
• เจลาตินแผ่น 2 แผ่น
• ผิวส้มซันคีสท์ขูดเล็กน้อย
• ผลบลูเบอร์รี่กวนในน้ำเชื่อมข้าวโพดชนิดกระป๋อง 300 กรัม (Blueberry Pie Fillng or Topping)
วิธีทำ
1. ผสมแครกเกอร์ป่นกับเนยละลายคลุกให้เข้ากัน กรุใส่พิมพ์ให้แน่น ใส่ตู้เย็นพักไว้
2. ตีครีมชีสกับนมข้นหวานให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเนียนๆ ใส่ผิวส้มหรือผิวมะนาว คนให้เข้ากัน พักไว้
3. แช่แผ่นเจลาตินในน้ำเย็นจนนิ่ม ต้มกับวิปปิ้งครีมประมาณ 3 ช้อนโต๊ะจนละลาย
4. ตีวิปปิ้งครีมที่เหลือให้ขึ้นฟู แค่พอตั้งยอดอ่อนๆไม่ต้องฟูมาก พักไว้
5. นำครีมชีส เจลาติน วิปปิ้งครีมที่เตรียมไว้(ข้อ 2,3,4) มาผสมรวมกันให้เป็นเนื้อเดียว ตักใส่พายที่แช่ไว้ หลังจากนั้นนำไปแช่เย็นเพื่อให้ครีมชีสแข็งตัว ประมาณ 2 ชั่วโมงหรือจนกว่าจะแข็งตัวดี นำออกจากตู้เย็น ตักบลูเบอรี่ราดบนหน้าครีมชีสให้ทั่วและสวยงาม ยกเสิร์ฟ ได้ทันที
H&C Tips
• แครกเกอร์ที่ใช้ทำแป้งพายแต่ละยี่ห้อ จะดูดซับเนยละลายแตกต่างกันอาจจะมากหรือน้อยกว่าในสูตรเล็กน้อย วิธีสังเกตว่าแป้งพายใช้ได้หรือไม่ ให้ลองกำส่วนผสมให้แน่นๆ ถ้าปล่อยมือแล้วยังคงเกาะกันเป็นก้อนอยู่แสดงว่าใช้ได้แล้ว
• จะใช้ผิวมะนาวขูดแทนผิวส้มซันคีสท์ในส่วนผสมครีมชีส หรือจะไม่ใส่เลยก็ได้
• ท้อปปิ้งราดหน้าจะใช้ผลเชอรี่กวนในน้ำเชื่อม หรือผลไม้สดนำมาตุ๋นในน้ำเชื่อมที่เติมแป้งข้าวโพดเล็กน้อยให้พอเหนียวแทนก็ได้

บลูเบอรี่ชีสพาย


ส่วนผสม
บลูเบอรี่ 1 กระป๋อง ขนมปังแคร็กเกอร์ ฮับเส็ง 42 แผ่น
เนยเค็ม 1 ก้อน + 1 ช้อนโต๊ะ ครีมชีส ฟิลาเดลเฟีย 1 ก้อน
มะนาว 2 - 3 ลูก นมข้น 1/3 กระป๋อง
น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ ถาดกลมขนาด 8" 2 ถาด

วิธีทำ
ตําขนมปังด้วยครกดินสะอาดๆ (อย่าให้มีกลิ่น รสของอาหารอื่นๆ ติดอยู่) ตำให้ละเอียดพอสมควร วิธีตำคือค่อยๆ ตำครั้งละ 2 - 3 แผ่น และตักออกพักไว้ในชาม
เมื่อตำขนมปังเสร็จ ใส่เนย 1 ก้อน (ควรจะปล่อยให้นุ่มด้วยอุณหภูมิห้องหรือใส่ไมโครเวฟแค่พอให้นุ่ม) คลุกขนมปังป่นกับเนยให้เข้ากัน เอาใส่ชามแก้ว และอบในเตาไมโครเวฟประมาณ 2 - 3 นาที เอาออกมาคนให้ทั่วอบต่ออีก 2-3 นาที จนส่วนผสมมีกลิ่นหอมและเป็นสีน้ำตาลทอง
เตรียมถาดขนาด 8 นิ้ว 2 ถาด แบ่งส่วนผสมซึ่งยังร้อนจัดเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กัน เกลี่ยให้ทั่วทั้ง 2 ถาด และให้เลยขึ้นมาที่ขอบด้วย ใช้ทัพพีอัดส่วนขนมให้แน่นปาดให้บางเสมอกัน ทิ้งให้เย็นและใส่ตู้เย็นพักไว้
แกะกล่องครีมชีส ใช้มีดตัดเป็นก้อนเล็กๆ ใส่เนย 1 ช้อนโต๊ะ หรือถ้าชอบเนย จะเติมเป็น 2 ช้อนโต๊ะก็ได้ ตีให้ส่วนผสมขึ้นด้วยเครื่องตีไข่ ถ้าไม่มีใช้ขดลวดที่เรียกว่า whisk ตี หรือถ้าไม่มีอะไรสักอย่างก็ใช้ส้อมตีได้ เติมนมข้น น้ำตาล และน้ำมะนาว
ถ้ามะนาวลูกใหญ่น้ำแยะก็ใส่ 2 ลูก ถ้าน้ำน้อยก็ 3 ลูก ชิมรสให้หวานเปรี้ยวถูกใจ คนจนเข้ากันเป็นครีมสีขาว เทส่วนผสมนี้ลงในถาดทั้งสองจะได้ปริมาณที่พอดี
คราวนี้เปิดกระป๋องบลูเบอรี่ และแบ่งราดหน้าขนม 2 ถาดเท่าๆ กัน เสร็จแล้วใส่ตู้เย็น รอจนเย็นจับตัวกันดีก็กินได้

คัพเค้ก แบลค์ แอนด์ ไวท์


ส่วนผสม ตัวแป้ง
แป้ง 1 ถ้วย ครึ่ง
น้ำตาล 1 ถ้วย
โกโก้ 1/4 ถ้วย กับอีก 1 ช้อนโต๊ะ
เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
เกลือ 1/2 ช้อนชา
น้ำ 1/2 ถ้วย
น้ำมัน 1/3 ถ้วย
ไข่ 1 ฟอง
วนิลา 1 ช้อนชา

ส่วนผสมครีมชีส
ครีสชีส 180 กรัม
น้ำตาลทรายขาวป่น 1/4 ถ้วย
ไข่ 1 ฟอง

วิธีทำ
1. เปิดเตาอบไว้รอ ไฟที่อุณหภูมิ 175 องศา
2. ผสม แป้ง น้ำตาล โกโก้ เบกกิ้งโซดา เกลือ คนให้เข้ากันด้วยตระกร้อมือ
3. ผสม น้ำ น้ำมัน ไข่ วนิลา คนให้เข้ากันดี
4. เทส่วนผสมที่ 3 ลงใน ส่วนผสมที่ 2 คนด้วยพายยาง เข้าให้กันดี
5. เทส่วนผสมสีดำ ลงในถ้วยมัฟฟิ่น แค่ 1/3 ถ้วย ให้ได้ 12 ถ้วย จากนั้น ตัก ส่วนผสมครีมชีส หยอดลงไป ครึ่งซีก แล้ว อีกซีก หยอดส่วนผสมแป้ง แต่งหน้า ด้วย ถั่ว เมคคาเดเนี่ย หรือ มะม่วงหินมะพานก็ได้ค่ะ
6. น้ำเข้าเตาอบ อบ ประมาณ 30-35 นาที

Tuesday, June 29, 2010

Homemade Banoffi Pie


บานอฟฟี่เป็นของหวานที่ได้รับความนิยมมาก ด้วยเสน่ห์ที่มีครบทุกรสชาติในคำเดียว ทั้งความกรุบกรอบและเค็มนิดๆจากแป้งพายชั้นล่าง ถัดมาเป็นช็อกโกแลตนิ่มรสหวานหน่อยๆ และกล้วยหอมเคลือบคาราเมลรสนุ่ม ปิดหน้าด้วยวิปปิ้งครีมฟูเบาที่แฝงด้วยรสชาติของชีสมาสคาโปน โดยทั่วไปมักทำบานอฟฟี่สองสไตล์ คือ หั่นชิ้นสามเหลี่ยมเหมือนเค้กทั่วไป หรือเสิร์ฟมาในถ้วยกิ๊บเก๋
ส่วนผสม (8 ชิ้น)
• แครกเกอร์บดละเอียด 2 ห่อ (180 กรัม)
• เนยละลาย 5 ช้อนโต๊ะ (80 กรัม)
• เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
• ช็อกโกแลตชิป 1 ถ้วยพูน (150 กรัม)
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
• นมสดชนิดจืด 1/5 ถ้วย (50 กรัม)
• กล้วยหอมสุก 3 ผล
• น้ำตาลทรายขาว 1/3 ถ้วย (60 กรัม)
• เนยสดชนิดจืด 2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
• นมข้นหวาน 1/4 ถ้วย (60 กรัม)
• ผงอบเชยป่น 1/8 ช้อนชา
• วิปครีม 1 ถ้วย (250 กรัม)
• มาสคาโปนชีส 1/4 ถ้วย (50 กรัม)
• ผงโกโก้สำหรับโรยหน้า
วิธีทำ
1. ผสมแครกเกอร์บด เนยละลายและเกลือให้เข้ากัน กรุใส่ก้นพิมพ์วงกลมขนาด 2 ปอนด์ นำไปแช่เย็นไว้
2. นำช็อกโกแลตไปตุ๋นในหม้อที่อังบนน้ำร้อน ใส่น้ำตาลทรายแล้วคนให้ละลายเข้ากัน จากนั้นเติมนมคนจนเป็นเนื้อเดียวกัน รอให้เย็นลงเล็กน้อย จึงนำไปราดบนแป้งพายที่กรุเตรียมไว้แล้วนำไปแช่เย็น
3. หั่นกล้วยหอมเป็นแว่นบางๆพักไว้ นำกระทะตั้งไฟให้ร้อนใส่น้ำตาลทราย ใช้ไฟอ่อนรอจนน้ำตาลละลายเป็นคาราเมลสีทอง ยกกระทะลงใส่เนยแล้วคนเร็วๆให้เข้ากัน จากนั้นเติมนมข้นหวานและอบเชย คนให้เป็นเนื้อเดียวกันแล้วจึงใส่กล้วยที่หั่นไว้คนให้คาราเมลเคลือบกล้วยจนทั่ว พักไว้จนเย็นลง
4. ตักกล้วยคาราเมลราดบนชั้นช็อกโกแลต นำกลับไปแช่เย็นอีก
5. ตีวิปครีมกับมาสคาโปนชีสให้ขึ้นฟู แล้วปาดทับชั้นกล้วยหอมให้ทั่ว นำกลับไปแช่เย็นให้อยู่ตัวเล็กน้อย ก่อนเสิร์ฟโรยหน้าด้วยผงโกโก้
H&C Tip : สามารถประยุกต์ทำบานอฟฟี่เป็นแบบถ้วยได้ โดยคงขั้นตอนไว้เหมือนเดิม แต่ควรใช้ถ้วยที่มีขนาดเล็กและปากกว้าง เพื่อให้สะดวกต่อการกิน

พิซซ่า กล้วยหอม


ส่วนของตัวแป้งพิซซ่า
1 ฟอง ใข่ไก่
60 กรัม เนยสด
50 กรัม น้ำตาลทราย
10 กรัม เกลือ
10 กรัม ผงฟู
15 กรัม ยีสต์
300 ม.ล. นมสด
500 กรัม แป้งขนมปัง

ส่วนของแพสตี้ครีม
500 ม.ล. นมสด
100 กรัม น้ำตาลทราย
60 กรัม เนย
4 ฟอง ใข่แดง
60 กรัม แป้งข้าวโพด

ส่วนของแป้งสตูลเซล
250 กรัม เอาล์มอนด์พาวเดอร์
250 กรัม แป้งขนมปัง
400 กรัม น้ำตาลทราย
380 กรัม เนยสด
กลิ่นวานิลลา

ส่วนของหน้าพิซซ่า
500 กล้วยหอมสุก
1200 แป้งสตูลเซล
1000 ครีมชีส

การเตรียม
1นำส่วนผสมของส่วนของแป้งพิซซ่าทั้งหมดเข้าเครื่องผสม ใช้ความเร็วปานกลางจนส่วนผสมเข้ากันเนียนดีจึงพักแป้งไว้
2ทำส่วนของวานิลลาครีมโดยนำนม,น้ำตาลและเนยไปต้มจนเดือดจึงใส่ส่วนผสมที่เหลือ คนจนส่วนผสมสุกดีทิ้งให้เย็น
3ทำส่วนของแป้งสตูลเซลโดยนำส่วนผสมทั้งหมดคลุกเคล้าให้เข้ากันนำไปแช่เย็น
4นำแป้งพิซซ่ามาแผ่ขยายเป็นวงกลมและนำแพสตี้ครีมมาใส่ตรงกลางเกลี่ยให้ทั่ว
5โรยด้วยแครนเบอรี่,แป้งสตูลเซล,และครีมชีส
6นำไปอบใช้ความร้อน 200 องศาเซลเซียส นานประมาณ 15-20 นาที

แอปเปิ้ลฟริตเตอร์

แป้งทอดกรอบสำเร็จรูป 1 ซอง
น้ำโซดาแช่จนเย็นจัด 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย (1) 2 ช้อนชา
แอปเปิ้ลเขียว, แดง หั่นเป็นชิ้น 4 ผล
น้ำตาลทราย (2) 100 กรัม
อบเชยป่น 3 กรัม
น้ำมันพืช สำหรับทอด
วิธีทำ
- ผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำตาลทราย (1) เข้าด้วยกัน ค่อย ๆ เติมน้ำโซดา คนผสมจนส่วนผสมเข้ากันดี เตรียมไว้
- ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ตั้งไฟพอร้อน ใช้ไฟปานกลาง ชุบแอปเปิ้ลลงในแป้งที่ละลายเตรียมไว้ ทอดจนกระทั่งแอปเปิ้ลเหลืองสวยจึงตักขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน จัดแอปเปิ้ลฟริตเตอร์ลงจานสำหรับเสิร์ฟ รับประทานคู่กับน้ำตาลทราย (2) ที่ผสมกับอบเชยป่น

Thursday, June 24, 2010

บิสกิตมะนาว


สิ่งที่ต้องเตรียม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ฟอกขาว 600 ก.
เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
น้ำตาลไอซิ่ง 200 ก.
มาร์การีน คราวน์ 220 ก.
เนยขาว 60 ก.
ไข่ไก่, ไข่แดง อย่างละ 1 ฟอง
น้ำหอมกลิ่นมะนาว 1/4 ช้อนชา
ไส้เลมอนครีม (Lemon Cream) สำหรับสอดไส้ พิมพ์รูปตัวอักษร สำหรับกดถาดสำหรับอบ (ทาด้วยเนยขาว) รอยัลไอซิ่ง สำหรับแต่งชิ้นคุกกี้
เลมอนครีม (Lemon Cream) สิ่งที่ต้องเตรียม
เนยขาว 400 ก.
มาร์การีน คราวน์ 50 ก.
์น้ำตาลไอซิ่ง 350 ก.
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำหอมกลิ่นมะนาว 1 ช้อนชา
สีผสมอาหารสีเหลืองมะนาว 1 ช้อนชา

วิธีทำ
- ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ เบคกิ้งโซดาและน้ำตาลไอซิ่งเข้าด้วยกัน
- ตีผสมมาร์การีน คราวน์กับเนยขาว และส่วนผสมแป้งที่เตรียมไว้ด้วยหัวตีรูปใบไม้ ใช้ความเร็วปานกลาง จนแป้งและเนยกระจายตัว เติมไข่ไก่ ไข่แดงและน้ำหอมกลิ่นมะนาว ตีผสม รวมตัวกันเป็นก้อน พักไว้นานประมาณ 15 นาที
- รีดแป้งออกเป็นแผ่นหนาประมาณ 1/4 เซนติเมตร กดด้วยพิมพ์รูป ตัวอักษรให้เป็นชิ้นสวยงาม เรียงลงบนถาดที่เตรียมไว้ นำเข้าเตาอบ ที่อุณหภูมิ 300-330 องศาฟาเรนไฮด์ นานประมาณ 12-15 นาที หรือจนกระทั่งเหลืองกรอบ นำออกจากเตา พักไว้จนเย็นสนิท
- ทาไส้เลมอนครีมลงบนบิสกิตด้านหนึ่ง ประกบด้วยบิสกิตอีกชิ้น แต่ง หน้าด้วยรอยัลไอซิ่งให้สวยงาม รับประทานคู่กับเครื่องดื่มที่ชอบ

Monday, June 14, 2010

คุกกี้อัลมอนด์เมอแรง


คุกกี้สีขาวเนื้อเบากรอบทำจากไข่ขาวและน้ำตาลไอซิ่งตีจนขึ้นฟู บีบหรือตักเป็นรูปทรงต่างๆตามชอบ โรยด้วยอัลมอนด์สไลซ์เพิ่มความกรอบอร่อย เป็นคุกกี้รสหวานเบาๆที่กินได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวอ้วนด้วยแป้งและเนย
ส่วนผสม
• ไข่ขาว 4 ฟอง
• ครีมออฟทาทาร์ 1/2 ช้อนชา
• น้ำตาลทรายป่น 1/3 ถ้วย
• ไอซิ่ง 1/3 ถ้วย
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
• อัลมอนด์สไลซ์อบ 1/2 ถ้วย
วิธีทำ
1. ตีไข่ขาวกับครีมออฟทาทาร์ด้วยสปีดกลาง (ใช้หัวตีรูปตะกร้อ) พอให้ไข่ขาวเริ่มอยู่ตัวเล็กน้อยจึงเพิ่มสปีดสูงสุด จากนั้นใส่น้ำตาลทรายป่นและไอซิ่งลงไปทีละน้อยจนหมด ตีจนไข่ขาวตั้งยอด (ประมาณ 1-2 นาที) จากนั้นลดสปีดลงต่ำ ใส่กลิ่นวานิลลา ตีต่ออีกเล็กน้อยให้เข้ากัน ปิดเครื่องแล้วใส่อัลมอนด์สไลซ์ ใช้พายยางคนเบาๆพอให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี
2. ตัดกระดาษไขวางลงบนถาดสำหรับอบ ใช้ช้อนตักไข่ขาววางเป็นก้อนเล็กๆแบบคุกกี้ หรือจะใส่ถุงแล้วบีบให้เป็นรูปตามชอบก็ได้ แล้วใช้อัลมอนด์สไลซ์ตกแต่งให้สวยงาม
3. เข้าอบที่อุณหภูมิ 110 องศาเซลเซียส หรือ 200 องศาฟาเรนไฮต์ นาน 1 ชั่วโมง จากนั้นลดไฟลง 75 องศาเซลเซียส หรือ 125 องศาฟาเรนไฮต์ อบต่ออีกประมาณ 1 1/2 -2 ชั่วโมงจนกระทั่งคุกกี้แห้งสนิทดีแล้ว ยกออกจากเตา ค่อยๆเอาคุกกี้ออกจากกระดาษ (ระวังอย่าให้แตก) คุกกี้ที่ได้จะสีขาวเนื้อเบากรอบ

คุกกี้ช็อกโกแลตชิพ



เครื่องปรุง
แป้งสาลีเอนกประสงค์ 500 กรัม
เนยสดชนิดเค็ม 250 กรัม
เนยขาว 150 กรัม
น้ำตาลขาวทรายป่น 175 กรัม
น้ำตาลทรายแดง 100 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
เบคกิ้งโซดา
ขั้นตอนการทำ
1. ร่อนแป้งแล้วตวง นำมาร่อนกับเบคกิ้งโซดา ร่อนพอเข้ากันพักไว้

2. ตีเนยสดและเนยขาว พอขึ้นขาวฟู ค่อยๆใส่น้ำตาลทรายขาว และน้ำตาลทรายแดง ลงไปทีละน้อยจนหมด

3. ใช้ความเร็วสูง ใส่ไข่ไก่ทีละฟองจนหมด ตีต่อสักครู่ จึงลดความเร็วเหลือต่ำสุด แล้วใส่แป้งลงไปคนพอเข้ากันพอเข้ากันดีแล้วใส่ช็อกโกแลตชิพ ลงไปผสม

4. ใช้ช้อนตักเป็นก้อนกลมวางเรียงบนถาดที่ทาเนยขาวบางๆ เตรียมไว้แล้วแต่งหน้าด้วยอาหารเช้าเนสท์เล่ โกโก้ครั้นซ์ กับอาหารเช้า เนสท์เล่ ฮั่นนี่สตาร์ส นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียล นานประมาณ 15 นาทีหรือจนสุกนำออกจากเตาอบ

Saturday, June 12, 2010

คุกกี้ทานตะวัน


ส่วนผสม
แป้ง 1 1/4 ถ้วยตวง
ผงฟู 1 ช้อนชา
เกลือ 1/4 ช้อนชา
เนย 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาล 1/2 ถ้วยตวง
ไข่ 1 ฟอง
วานิลลา 1/2 ช้อนชา
เมล็ดทานตะวันอบ 1 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1. ผสมแป้ง ผงฟู เกลือ เข้าด้วยกันจะร่อนด้วยกระชอน หรือ คนด้วยลวดตีไข่ก็ได้
2. ตีเนยกับน้ำตาลจนฟู ใส่ไข่ วานิลลาตีให้เข้ากัน
3. นำส่วนที่ 1 ลงไปผสม แล้วใช้พายคนให้เข้ากันดี ใส่เมล็ดทานตะวันเป็นอันดับสุดท้าย
4. ใช้ช้อนชาตักแป้งโดพูนช้อน แล้วหยอดเป็นกองๆ ในถาดอบที่ไม่ต้องทาเนยขาว ว่างห่างกัน ประมาณ 2 นิ้ว ใช้เวลาอบ 10-12 นาที ความร้อน 375 F

Homemade Banoffi Pie


บานอฟฟี่เป็นของหวานที่ได้รับความนิยมมาก ด้วยเสน่ห์ที่มีครบทุกรสชาติในคำเดียว ทั้งความกรุบกรอบและเค็มนิดๆจากแป้งพายชั้นล่าง ถัดมาเป็นช็อกโกแลตนิ่มรสหวานหน่อยๆ และกล้วยหอมเคลือบคาราเมลรสนุ่ม ปิดหน้าด้วยวิปปิ้งครีมฟูเบาที่แฝงด้วยรสชาติของชีสมาสคาโปน โดยทั่วไปมักทำบานอฟฟี่สองสไตล์ คือ หั่นชิ้นสามเหลี่ยมเหมือนเค้กทั่วไป หรือเสิร์ฟมาในถ้วยกิ๊บเก๋
ส่วนผสม (8 ชิ้น)
• แครกเกอร์บดละเอียด 2 ห่อ (180 กรัม)
• เนยละลาย 5 ช้อนโต๊ะ (80 กรัม)
• เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
• ช็อกโกแลตชิป 1 ถ้วยพูน (150 กรัม)
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
• นมสดชนิดจืด 1/5 ถ้วย (50 กรัม)
• กล้วยหอมสุก 3 ผล
• น้ำตาลทรายขาว 1/3 ถ้วย (60 กรัม)
• เนยสดชนิดจืด 2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
• นมข้นหวาน 1/4 ถ้วย (60 กรัม)
• ผงอบเชยป่น 1/8 ช้อนชา
• วิปครีม 1 ถ้วย (250 กรัม)
• มาสคาโปนชีส 1/4 ถ้วย (50 กรัม)
• ผงโกโก้สำหรับโรยหน้า
วิธีทำ
1. ผสมแครกเกอร์บด เนยละลายและเกลือให้เข้ากัน กรุใส่ก้นพิมพ์วงกลมขนาด 2 ปอนด์ นำไปแช่เย็นไว้
2. นำช็อกโกแลตไปตุ๋นในหม้อที่อังบนน้ำร้อน ใส่น้ำตาลทรายแล้วคนให้ละลายเข้ากัน จากนั้นเติมนมคนจนเป็นเนื้อเดียวกัน รอให้เย็นลงเล็กน้อย จึงนำไปราดบนแป้งพายที่กรุเตรียมไว้แล้วนำไปแช่เย็น
3. หั่นกล้วยหอมเป็นแว่นบางๆพักไว้ นำกระทะตั้งไฟให้ร้อนใส่น้ำตาลทราย ใช้ไฟอ่อนรอจนน้ำตาลละลายเป็นคาราเมลสีทอง ยกกระทะลงใส่เนยแล้วคนเร็วๆให้เข้ากัน จากนั้นเติมนมข้นหวานและอบเชย คนให้เป็นเนื้อเดียวกันแล้วจึงใส่กล้วยที่หั่นไว้คนให้คาราเมลเคลือบกล้วยจนทั่ว พักไว้จนเย็นลง
4. ตักกล้วยคาราเมลราดบนชั้นช็อกโกแลต นำกลับไปแช่เย็นอีก
5. ตีวิปครีมกับมาสคาโปนชีสให้ขึ้นฟู แล้วปาดทับชั้นกล้วยหอมให้ทั่ว นำกลับไปแช่เย็นให้อยู่ตัวเล็กน้อย ก่อนเสิร์ฟโรยหน้าด้วยผงโกโก้
H&C Tip : สามารถประยุกต์ทำบานอฟฟี่เป็นแบบถ้วยได้ โดยคงขั้นตอนไว้เหมือนเดิม แต่ควรใช้ถ้วยที่มีขนาดเล็กและปากกว้าง เพื่อให้สะดวกต่อการกิน

Tuesday, June 8, 2010

Stain Glass Cookie

เป็นภาพตัวอย่าง


แป้งสาลีอเนกประสงค์ 250 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนชา
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
มาร์การีน 120 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 200 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำหอมกลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
เบเกอรี่ทอปปิ้ง
ผสมสีผสมอาหารตามต้องการ
วิธีทำ
- ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ กับผงฟูและเกลือป่นเข้าด้วยกัน
- ตีผสมมาร์การีน น้ำหอม กลิ่นวานิลลา และน้ำตาลไอซิ่งเข้าด้วยกัน จนขึ้นฟู
- ใส่ไข่ไก่ลงตีผสม และตามด้วยส่วนผสมของแป้งที่ร่อนเตรียมไว้
- พักแป้งไว้นานประมาณ 2 ชั่วโมง จึงคลึงแป้งเป็นแผ่น ใช้พิมพ์กด เป็นรูปทรงที่ต้องการ
- นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิประมาณ 400 องศาฟาเรนไฮด์นานประมาณ 8 นาที หรือจนกระทั่งเริ่มสุก จึงนำออกมาหยอดหน้าด้วยเบเกอรี่ท้อปปิ้ง ผสมสีผสมอาหารตามต้องการ และนำกลับเข้าเตาอบอีกครั้งที่อุณหภูมิประมาณ 300 องศาฟาเรนไฮด์ จนกระทั่งแยมทรงตัว

Butter Cookies คุ๊กกี้เนย


กลับมาอีกแล้วหลังจากหายไปนานเลยกับเมนูการทำอาหาร มาคราวนี้เป็นเมนูขนม แล้วกัน ซีรีส์ยาวๆเลย

เนยสดชนิดเค็ม 100 กรัม
เนยขาว 100 กรัม
น้ำตาลทราย 150 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 300 กรัม
ผงฟู 1/2 ช้อนชา
เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
วานิลลาชนิดผง 1 ช้อนชา

สิ่งที่ต้องเตรียม
(สำหรับทำหน้า Icing)
เนยสด 25 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 100 กรัม
น้ำร้อน 25 ซี.ซี.

วิธีทำ
- ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู เกลือป่น และวานิลลาชนิดผงเข้าด้วยกัน
- ตีเนยสดชนิดเค็ม เนยขาว น้ำตาลทราย จนเข้ากัน เติมไข่ลงตีผสม
- เติมแป้งผสมเบา ๆ
- ตักออกมาปั้นเป็นลูกกลม กดให้แบน วางลงถาดที่ทาเนยไว้บาง ๆ
- นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 375 องศาฟาเรนไฮด์ จนสุก เมื่อขนมเย็นแล้วเคลือบน้ำตาล Icing โรยด้วย ลูกปัดสี เย็นสนิทดีจึงเก็บใส่ขวดโหลไว้

วิธีทำ (หน้า Icing)
- ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ใช้เคลือบคุกกี้ตามชอบ