Saturday, January 31, 2009

ไก่ย่างรสเด็ด


เครื่องปรุง
ไก่จะใช้ส่วนน่องและอกก็ได้หรือจะใช้ทั้งตัวก็ได้ 2 กิโลกรัม
ตะไคร้ 3 ต้น
กระเทียม 20 กลีบ
รากผักชี 7 ราก
พริกไทยดำ 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
เหล้า 2 ช้อนโต๊ะ
ซอยหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
หอมแดง 4 หัว
น้ำจิ้ม 2 ชนิด

ชนิดที่ 1
น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียกต้มสุก 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1-2 ช้อนชา
ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอย 1-2 หัว
ผักชีฝรั่ง
ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
ชนิดที่ 2
กระเทียม 5 กลีบ
พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด
น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง
กระเทียมดอง 2 หัว
เกลือ 1-2 ช้อนชา

วิธีทำ
1. โขลกส่วนผสม ตะไคร้ กระเทียม รากผักชี พริกไทยดำ หอมแดงให้ละเอียด
2. ไก่ล้างให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
3. ผสมซอสหอยนางรม เกลือ ส่วนผสมที่โขลกเคล้าให้เข้ากัน นำไก่ลงมาเคล้าให้ทั่วหมักทิ้งไว้ 30 นาที นำไปย่างไฟอ่อนจนสุกเหลือง เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม
4. น้ำจิ้ม ชนิดที่ 1 ผสมน้ำปลา น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว เข้าด้วยกันชิมรสดูให้ออกเปรี้ยวเค็ม หวาน ใส่ข้าวคั่ว พริกป่น หอมแดงซอย ต้นหอม ผักชีซอย
5. น้ำจิ้มชนิดที่ 2 โขลกกระเทียมสด กระเทียมดอง น้ำตาลทราย เกลือ พริกชี้ฟ้าแดงให้ละเอียด เข้ากันดี นำขึ้นตั้งไฟ คนพอละลาย ยกลงใช้ได้

Friday, January 30, 2009

ไก่ผัดใบกะเพรา


ส่วนผสม
เนื้อไก่ไม่มีกระดูกหั่นเป็นชิ้น 1 1/2 ถ้วย
ใบกะเพรา 1/4 ถ้วย
พริกชี้ฟ้า 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมปอกเปลือก 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1 - 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. สับพริกชี้ฟ้ากับกระเทียมเข้าด้วยกัน
2. ตั้งน้ำมันในกระทะก้นกลม หรือกระทะสำหรับทอด ให้ร้อนจนเกือบควันขึ้น
3. ใส่พริกและกระเทียมสับลงไป ผัดจนกระเทียมเป็นสีน้ำตาลอ่อน
4. เติมเนื้อไก่และผัดไปเรื่อยๆจนไก่สุก
5. เติมน้ำปลา น้ำตาล น้ำมันหอยและผัดต่ออีกสักครู่ เพื่อให้เครื่องปรุงรสเข้ากันดีกับเนื้อไก่
6. เติมใบกะเพราแล้วคลุกแบบเร็วๆในกระทะ นำกระทะออกจากไฟแล้วตักเสิร์ฟทันที

หมายเหตุ
ใบกะเพราะมีชื่อภาษาอังกฤษชื่อหนึ่งว่า Holy basil leaves เพราะถือเป็นใบไม้ศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนึ่งในศาสนาฮินดู

Thursday, January 15, 2009

แกงส้มปลาทับทิมทอดชะอมไข่

ส่วนผสม
เนื้อปลาทับทิมหั่นเป็นชิ้น300 กรัม
ไข่ไก่2 ฟอง
ชะอมเด็ดเอาแต่ใบ100 กรัม
ดอกแค50 กรัม
น้ำมันสำหรับทอด

ส่วนผสมน้ำพริกแกงส้ม
พริกแห้ง10 เม็ด
หอมแดงซอย5 หัว
กระเทียมซอย5 กลีบ
กะปิ1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น1 ช้อนชา
เครื่องปรุงรส
น้ำซุปปลา (หรือน้ำสะอาด)3 ถ้วย
น้ำมะขามเปียก1/4 ถ้วย
น้ำมะนาว1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. โขลกเครื่องแกงให้ละเอียด โดยใส่พริกแห้ง เกลือป่น โขลกจนละเอียดและตามด้วยกระเทียม หอมแดง กะปิ ตามลำดับ (ก่อนใส่เครื่องแกงอย่างต่อไปต้อโขลกในครกให้ละเอียดก่อน)
2. นำน้ำมันใส่กระทะตั้งไฟให้ร้อน ใส่เนื้อปลาทับทิมทอดจนเหลือง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน

Wednesday, January 14, 2009

ไก่ทอดตะไคร้


เครื่องปรุง
สะโพกไก่ 2 ชิ้น
ตะไคร้อ่อนซอย 1/2 ถ้วยตวง
หอมแดงซอง 1/4 ถ้วยตวง
รากผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
เกลือ 1-2 ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว 1-2 ช้อนโต๊ะ
พริกป่น 1 ช้อนชา
แป้งข้าวจ้าว 2 ช้อนโต๊ะ
นมสด 1/2 ถ้วยตวง
น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำ
1. สะโพกไก่ล้างน้ำให้สะอาดผึ่งให้สะเด็ดน้ำแล้วลงในนมสดนวดไปมาทิ้งไว้ 15 นาที
2. โขลกตะไคร้ (เหลือไว้เจียวโรยหน้าประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ) หอมแดง รากผักชี พริกไทยโขลกให้ละเอียด
3. ผสมเครื่องที่โขลกกับพริกป่นเกลือ ซีอิ๊วขาว แป้งข้าวจ้าวเข้าด้วยกัน ใส่ลงในไก่ที่หมักกับนมไว้ เคล้าให้เข้ากัน หมักต่ออีก 1 ชั่วโมง
4. นำไก่ลงทอดในน้ำมันที่ร้อนจัดจนสุกเหลือง ตักขึ้นจัดใส่จาน ตะไคร้ที่เหลือไว้นำลงทอดให้เหลืองตักขึ้น โรยหน้าไก่ที่ทอดเสิร์ฟร้อนๆ

Tuesday, January 13, 2009

แกงส้ม

แกงส้มเป็นอาหารพื้นบ้าน มีรสเปรี้ยว เค็ม หวาน นิดหน่อย เนื้อสัตว์ที่นำมาแกงส้ม มีปลาช่อน ปลาดุก ปลากุเลา ปลาเก๋า ปลาหมอไทย ปลาหมอเทศ กุ้งชีแฮ้ กุ้งนาง กุ้งก้ามกราม หอยแมลงภู่ หอยแครง หอยลาย ถ้าไม่มีเนื้อสัตว์อะไรก็ใช้เนื้อหมูแทนก็ได้
สำหรับผักที่เก็บมาแกงส้มได้ มีผักกาดขาว หัวแครอท เห็ด ลูกมะตาด ลูกแตงโมอ่อน เปลือกแตงโม หน่อไม้สดหรือหน่อไม้ต้ม หน่อไม้ดอง มะละกอดิบ (แกงส้มมะละกอกับกุ้ง) ดอกหอม กะหล่ำปลีดอก กะหล่ำปลีใบ กะหล่ำปลีปม ยอดมะพร้าวอ่อน ไส้อ่อนกล้วย หัวปลี ฟักเขียว ถั่วฝักยาวถั่วแขก ถั่วลันเตา ถั่วพู ผักบุ้งไทย ผักบุ้งจีน ผักกระเฉด สายบัว ลูกฟักข้าว ดอกขจร ดอกแค ดอกโสน ฟักทอง มะรุม ใบกระเจี๊ยบ ฝักข้าวโพดอ่อน ฝักกระเจี๊ยบอ่อน แตงกวา แตงร้าน บร็อคโคลี่ และอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ผักหนามดอง ผักกาดเขียวดอง ยอดฟักทอง
การปรุงแกงส้มยากกว่าแกงเผ็ด เพราะมีสามรส จะต้องปรุงให้มีรสออกเปรี้ยวเค็มหวาน กลมกล่อมไม่เปรี้ยวจนเกินไป หรือเค็มขึ้นหน้า จะต้องมีเปรี้ยวขึ้นหน้า นำเค็มกับหวานตาม ผักบางอย่างไม่ต้องการเคี่ยวให้สุกมาก เช่น ผักกระเฉด ลวกด้วยน้ำแกงส้มร้อน ๆ ผักจะกรอบดี ไม่เหนียว ปรุงน้ำแกงให้ได้รสอร่อยเวลารับประทานตั้งน้ำแกงให้เดือด จึงใส่ผักกระเฉด กะพอสุกทยอย รับประทานเป็นถ้วย ถ้าผักกระเฉดสุกมากเกินไป จะเหนียวไม่น่ารับประทาน
สำหรับผักบางอย่างเคี่ยวให้สุก หรือเป็นแกงส้มค้างคืน จะอร่อยกว่าแกงเสร็จก็ รับประทานเลย เช่น พวกแกงส้มมะละกอ แกงส้มหัวผักกาด แกงส้มหน่อไม้ แกงส้มฟักแฟง การทิ้งไว้ค้างคืนจะทำให้มีรสอร่อย ถ้าเป็นแกงส้มพวกใบไม้ ควรแกงรับประทานทันที ไม่ควรค้างคืนเครื่องปรุงน้ำพริกแกงส้ม1. แกงส้มธรรมดา พริกแห้ง 5 เม็ด หัวหอม 5 หัว กะปิ ½ ช้อนโต๊ะ 2. แกงส้มใส่เนื้อสัตว์ที่มีคาว พริกแห้ง 7 เม็ด หัวหอม 7 หัว กระเทียม 5 กลีบ ข่า 3 แว่น กะปิ ½ ช้อนโต๊ะ 3. แกงส้มแบบแกงเหลือง พริกขี้หนูแห้ง 20 เม็ด หัวหอม 7 หัว หัวกระเทียม 15 กลีบ ขมิ้นสด 1 ท่อน ยาว 3 ซม. ถ้าเป็นขมิ้นผง 1 ช้อนชา เกลือ 1 ช้อนชา กะปิ ½ ช้อนชา ข้าวสาร 1 ช้อนชา 4. แกงส้มพริกขี้หนูสด พริกขี้หนูสด 20 เม็ด หัวหอม 5 หัว กระเทียม 5 กลีบ กะปิ ½ ช้อนโต๊ะ
เนื้อสัตว์ที่ใช้กุ้งชีแฮ้ กุ้งนาง หรือกุ้งก้ามกราม ปลาช่อนสด รสเปรี้ยวที่ใส่ในแกงส้ม มีน้ำส้มมะขาม ใช้ได้ทั้งน้ำส้มมะขามเปียก น้ำส้มมะขามสด มะดัน น้ำมะกรูด น้ำมะนาว
แกงส้มบางอย่างใช้ทั้งน้ำส้มมะขาม และน้ำมะนาว เพื่อให้มีรสเปรี้ยวนำ มีรสเหมือนต้มยำเพื่อให้แซบ
แกงส้มที่อร่อย นอกจากรสกลมกล่อม เปรี้ยวนำเค็มหวานตามแล้ว เนื้อปลากุ้งหรือหอย จะต้องสดไม่เหม็นคาว ต้องใส่เนื้อปลา กุ้งหรือหอยในขณะที่น้ำแกงเดือด ปรุงรสน้ำส้มมะขาม น้ำปลา น้ำตาลเล็กน้อย ชิมให้ได้รสตามต้องการจึงใส่ผักแล้วยกขึ้น
สำหรับแกงส้ม ฟัก แฟง มะละกอ ยอดอ่อนฟักทอง จะต้องใส่ผักให้สุกก่อน จึงใส่น้ำส้มมะขาม น้ำปลา น้ำตาลปรุงรส เคี่ยวให้ผักสุกจึงยกขึ้น
เวลาแกงส้มไม่ควรใส่น้ำมาก ต้องกะเผื่อสำหรับน้ำส้มมะขามด้วย ถ้ามีน้ำมากเกินไปจะทำให้รสแกงไม่เข้ม อ่อนเปรี้ยว อ่อนเค็ม ทำให้ไม่น่ารับประทาน แต่ไม่ควรรสจัดมาก จะหมดความอร่อยควรกะพอน้ำแกงท่วมผัก กุ้งและปลา ถ้าแกงส้มผักกาดดอง ผักหนามดอง หน่อไม้ดอง จะต้องลดความเปรี้ยวลง เช่น ใส่น้ำส้มมะขามเพียง 1 ช้อนโต๊ะ หรือ 2 ช้อนโต๊ะก็พอ
พวกผักในแกงส้ม เมื่อสุกแล้วจะเก็บรสความเปรี้ยว ความเค็ม หวาน ไว้ในเนื้อผัก ด้วยเหตุนี้เมื่อทิ้งแกงส้มสักระยะหนึ่ง น้ำแกงส้มจะมีรสอ่อนทันที เพราะฉะนั้นเวลาปรุงน้ำแกงส้มจะต้องมีรสจัดเพิ่มเล็กน้อย เพื่อให้รสแกงที่กำลังอร่อยแกงส้มเป็นอาหารพื้นบ้านที่ทำได้ง่ายกว่าแกงอย่างอื่น มีราคาถูก ใช้ผักได้ทุกชนิด ถ้ามีเนื้อเค็มแดดเดียว ปลาเค็มแดดเดียว หมูทอด ไก่ทอด ปลาทอด ไข่เค็ม ไข่ฟูหมูสับ ไข่ทอด หอยทอด แกล้มกับแกงส้ม จะรู้สึกว่าเป็นอาหารที่อร่อยวิเศษสุด และเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เหมาะกับประเทศไทยและคนไทย

Monday, January 12, 2009

แกงเลียง

เครื่องปรุง
1. ฟักทองเนื้อดี หั่นชิ้นพอคำ จำนวน 10-12 ชิ้น
2. บวบเหลี่ยม (หักชิมดูเสียก่อนว่าไม่ขม) ประมาณ 1 ลูก ขนาดพอดี ปอกเปลือกออก แต่ไม่ควรปอกจนเกลี้ยงเกลาให้เหลือเปลือกไว้บ้าง เพื่อรักษาคุณค่าทางอาหาร หั่นเป็นชิ้นขนาดพอคำ ประมาณ 12-15 ชิ้น
3. ข้าวโพดอ่อนหั่นแฉลบ 4 ฝัก
4. กระชาย 2 หัว ทุบเบา ๆ แล้วหั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 1 นิ้ว
5. ตำลึงยอดงาม ๆ สัก 10 ยอด เด็ดเอาแต่ใบอ่อน ๆ
6. แมงลัก 3-4 กิ่ง เด็ดเอาแต่ใบหรือยอดดอกอ่อน ๆ
7. กุ้งแม่น้ำ หรือกุ้งชีแฮ้ 6-7 ตัว ปอกเปลือก เอาเส้นดำออก
8. น้ำซุป (จากการต้มซี่โครงหมูหรือโครงไก่) 4 ถ้วยตวง
9. น้ำปลาดี 2 ช้อนโต๊ะ
10. หากชอบเผ็ดเพิ่มพริกขี้หนูสดอีก 5-6 เม็ด บุบพอแตกเครื่องปรุงพริกแกง
1. พริกชี้ฟ้าแดงผ่าเอาเมล็ดออก 2 เม็ด
2. กระชาย 4 หัว
3. หอมแดงหัวขนาดกลาง 5 หัว
4. พริกไทยขาว 12 เม็ด
5. กะปิเผาไฟพอสุก 2 ขีดครึ่ง 6. กุ้งแห้ง 2 ขีดครึ่งวิธีทำนำเครื่องปรุงพริกแกงเหล่านี้โขลกให้ละเอียด ถ้าชอบให้น้ำแกงข้นอีกนิดก็ใช้เนื้อปลา จะย่างหรือต้มให้สุกก่อนก็ได้ แล้วนำมาโขลกรวมกันกับพริกแกง นำน้ำซุปตั้งไฟพอเดือด ใส่เครื่องแกงลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา ชิมให้ได้รสเค็มและเผ็ดนิด ๆ พอน้ำแกงเดือดอีกที ใส่ผักชนิดสุกยากลงก่อน เช่น ฟักทอง ข้าวโพด ตามด้วยกุ้ง รอจนแน่ใจว่าผักสุกดีแล้ว ใส่ใบตำลึง และใบแมงลักเป็นรายการสุดท้าย คนให้เข้ากัน ตักเสิร์ฟในขณะร้อน ๆ อร่อยนักแล

Sunday, January 11, 2009

แกงบ่าหนุน - แกงขนุน

แกงบ่าหนุน หรือ แกงขนุน เป็นแกงที่มีชื่อเป็นมงคล บางคนนิยมแกงนี้ในงานแต่งงานเป็นเคล็ดว่า ให้คู่แต่งงานนั้น มีความเกื้อหนุนจุนเจือต่อกัน และลักษณะของขนุนนั้น มียางหมายถึงให้คู่แต่งงานอยู่ร่วมกันอย่างแน่นแฟ้นยาวนาน และในวันปากปี (ปากปี๋) คือหลังวันเถลิงศกหนึ่งวันจะต้องกินหนุน ในมาเลเซียเรียกแกงขนุนว่า กูไล นังกา
นอกนี้ในคำอู้บ่าวอู้สาว หรือการพูดคุยจีบกันของหนุ่มสาวสมัยโบราณ มักใช้บ่าหนุน หรือขนุน เป็นสัญลักษณ์หรือเป็นนัยความหมาย บอกแก่สาวที่ตนไปจีบถึงบ้านว่า จะอยู่คุยนานๆ จึงมีสำนวนว่า แกงบ่าหนุนก้นตัง (แก๋งบ่าหนุนก้นตั๋ง) เปรียบเปรยว่า คนที่นั่งอยู่นานไม่กลับสักที (เหมือนกับมียางขนุนทำให้ก้นติดกับพื้นจนลุกไม่ได้)
แกงบ่าหนุน จะใช้ขนุนดิบไม่แก่หรืออ่อนเกินไปมาปอกเปลือก แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กแช่น้ำเอาไว้ ส่วนเครื่องปรุง ได้แก่ พริกแห้ง หอม กระเทียม เกลือ ปลาร้า กะปิ ใบชะพลู มะเขือเทศ ผักชะอม เนื้อหมู หรือกระดูกหมู
วิธีทำ นำผลขนุนมาทุบให้พอน่วม แล้วปอกเปลือกหนาออกเอาแต่ส่วนเนื้อ หั่นเป็นชิ้นๆ พอคำ หรือใช้มีดสับทั้งผลออกเป็นชิ้นๆ แล้วเฉือนเนื้อออกมาแช่น้ำเอาไว้ ต้มน้ำให้เดือดใส่กระดูกและขนุน ตั้งทิ้งไว้ให้เดือด นำพริกแห้ง หัวหอม กระเทียม เกลือ ปลาร้า กะปิ โขลกรวมกันให้ละเอียดแล้วนำเครื่องแกงลงใส่หม้อ รอให้น้ำเดือดสักพัก นำมะเขือเทศซึ่งทุบพอแตกใส่ลงไป พอแกงสุกก็ปรุงรสตามชอบ แล้วนำใบชะพลู ชะอมใส่ลงไปแล้วคนให้ทั่วก็ยกลงได้
บางคนอาจตั้งน้ำมัน เจียวหัวหอมให้เหลืองแล้วเทลงในหม้อแกงด้วยก็ได้ ขณะที่บางแห่งนิยมใส่ข่าและตะไคร้ทุบลงในน้ำแกงและอาจจะมี จักต่าน หรือสะค้านหั่นแว่น และ บ่าแขว่น หรือผลกำจัดโขลกใส่ลงในแกงด้วย หากไม่ใส่เนื้อหมูหรือกระดูกหมู จะใส่ปลาแห้งหรือแคบหมูแทนก็ได้ และหากใช้บ่าค้อนก้อมหรือฝักมะรุมแทนขนุน ก็เป็นแกงบ่าค้อนก้อม
สรรพคุณของแกงบ่าหนุน : บำรุงน้ำนม สมานแผลในกระเพาะ และลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น บำรุงกำลัง บำรุงร่างกาย เป็นอาหารบำรุงธาตุดิน ข้อห้าม ผู้ที่ป่วยเป็นหัด อีสุกอีใส หรือไข้หมากไม้ ห้ามกินเพราะจะทำให้อาการหนักยิ่งขึ้น สตรีคลอดบุตรใหม่บางคนแพ้กลิ่นของชะอมนักโภชนาการระบุว่าแกงบ่าหนุนในปริมาณ 100 กรัม มี 70.98 แคลอรี โปรตีน 7.25 กรัม ไขมัน 2.00 กรัม คาร์โบไฮเดรท 5.99 กรัม แคลเซียม 43.64 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 43.77 มิลลิกรัม เหล็ก 1.51 มิลลิกรัม วิตามินเอ 237.39 อาร์อี วิตามินบีหนึ่ง 0.41 มิลลิกรัม วิตามินบีสอง 0.13 มิลลิกรัม ไนอะซิน 1.88 มิลลิกรัม และ วิตามินซี 11.88 มิลลิกรัม

Saturday, January 10, 2009

กุ้งฝอยทอดกับยำมะม่วง

เครื่องปรุง
-กุ้งฝอยตัวเล็ก 200 กรัม
- แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำปูนใส 1/4 ถ้วยตวง
- เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทย 1/2 ช้อนชา
- ต้นหอมซอย 1/4 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำมันพืช พอประมาณ
เครื่องปรุงน้ำยำ
- มะม่วงสดสับเป็นชิ้น 1 ถ้วยตวง
- ตะไคร้ซอย 1/4 ถ้วยตวง
- หอมแดงซอย 1/4 ถ้วยตวง
- ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูสับ 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.ในชามผสมใส่แป้งข้าวเจ้า น้ำปูนใส เกลือ พริกไทย และน้ำเปล่า ผสมให้เข้ากันใส่ต้นหอมซอยและกุ้งตัวเล็กลงไปผสมให้เข้ากัน
2.นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันให้ร้อน ตักกุ้งที่อยู่ในแป้งน้ำเทลงทอดให้เป็นแพ ทอดให้เหลืองกรอบทั้ง 2 ด้าน ตักพักไว้ในกระดาษซับน้ำมัน
3.ในชามผสมอีกใบใส่น้ำปลา น้ำตาล น้ำมะนาว และพริกขี้หนู ผสมให้เข้ากัน
4.ใส่มะม่วงสับ ตะไคร้ซอย หอมแดงซอย ต้นหอม และผักชี ผสมให้เข้ากัน
5.จัดกุ้งทอดลงบนจานเสิร์ฟแล้วตักยำวางบนกุ้งเสิร์ฟเป็นจานเรียกน้ำย่อย

Friday, January 9, 2009

กะปิพล่า

รายการอาหารไทยวันนี้ครับ
ส่วนผสม
กุ้งแห้งป่น 4 ช้อนโต๊ะ
ผิวส้มซ่า 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงหั่นฝอยตามยาว 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมหั่นขวาง 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
พริกเหลืองหั่นขวาง 1 ช้อนโต๊ะ
กะปิ เผาไฟ 2 ช้อนชา
ส้มซ่า (ปอกผิวออกเสียก่อนเอาแต่น้ำ) 1 ลูกใหญ่
น้ำมะนาว 2 ลูก
น้ำต้มสุก 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปึก 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
1. ผสมน้ำมะนาวและน้ำส้มซ่าเข้าด้วยกัน จึงใส่กะปิ คนรวมกันสักครู่เพื่อให้กลิ่นกะปิระเหยไปบ้าง
2. ใส่กุ้งแห้งและเติมน้ำต้มสุก รวมทั้งเครื่องอื่นๆ ยกเว้นผิวส้มซ่าซึ่งจะใส่ทีหลังและต้องล้างน้ำเสียก่อน เพราะถ้าใส่ผิวส้มซ่าก่อนจะทำให้ขม
3. ชิมรสให้รสหวานนำเล็กน้อย และรับประทานกับปลาทอดกรอบ แตงโม ผักบุ้ง มะเขือ แตงกวา
ส้มซ่า:แก้ท้องอืด ส้มซ่า หรือส้มส้า มะขุน ส้มส่า เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางคล้ายส้มเขียวหวาน ใบเป็นใบเดี่ยวทรงกลมรีสีเขียวเข้ม ผิวเรียบมัน มีต่อมน้ำมัน ก้านใบมีปีกแคบ ๆ ดอกเล็กสีขาวเป็นช่อเล็ก ๆ ผลกลมขนาดเท่าส้มเขียวหวานผิวหนาและขรุขระกว่าเล็กน้อย เปลือกหนาคล้ายเปลือกมะกรูด เนื้อในสีขาวคล้ายส้มโอ รสเปรี้ยวอมหวานเล็กน้อย ประโยชน์ หั่นฝอยโรยใส่หมี่กรอบช่วยให้มีกลิ่นหอม เปลือกลูกใช้ทำยาแก้ลมวิงเวียน แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ น้ำในลูกกัดฟอกเสมหะ แก้ไข้ ฟอกโลหิต ใบรักษาโรคผิวหนัง ทั้งนี้ตามความเชื่อควรปลูกไว้ทางทิศเหนือร่วมกับส้มป่อยและมะเดื่อ เพื่อแก้เคล็ดให้บุตรหลานมีชื่อเสียง (จากไม้ผลพื้นบ้านโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรพันธุ์พืชสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล).

Wednesday, January 7, 2009

ก๋วยเตี๋ยวห่อผักกาดดอง

รายการอาหาร วันนี้
ส่วนผสม
หมูสามชั้นหั่นชิ้นเล็ก
1/2 ถ้วย
ผักกาดดองเปรี้ยวซอย
1 ถ้วย
เต้าหู้หั่นชิ้นเล็กทอด
1/2 ถ้วย
ถั่วผักยาวหั่นแฉลบ
1/2 ถ้วย
ผงปรุงรสหมู
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย
1 ช้อนชา
น้ำมันพืช
1ช้อนโต๊ะ
ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ หรือก๋วยเตี๋ยวหลอดแบบแผ่น

เกลือและพริกไทยเล็กน้อย
วิธีทำ1. ต้มน้ำให้เดือด นำผักกาดดองลงต้ม ประมาณ 5 นาที พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ2. ผัดหมูสามชั้นกับน้ำมันให้สุก เติมผักกาดดองและถั่วฝักยาว3. ปรุงรสด้วยผงปรุงรส น้ำตาลทราย เกลือและพริกไทย ผัดให้เข้ากัน4. คลี่แผ่นก๋วยเตี๊ยวออก ตักผักกาดดองที่ผัดไว้ใส่ลงไป แล้วม้วนให้แน่น5. เรียงก๋วยเตี๋ยวที่ห่อแล้วนำไปนึ่งให้ร้อนก่อนรับประทาน6. รับประทานคู่กับซีอิ๋วดำหวาน

ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง

อาหารไทยวันนี้
เครื่องปรุง
เบคอน (ทอดกรอบ)
100 กรัม
เนื้อหมูติดมันสับละเอียด
100 กรัม
กุ้งสดสับละเอียด
50 กรัม
กุ้งแห้ง ทอดกรอบ
3 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว
3 ช้อนโต๊ะ
ซอสหอยนางรม
2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียม
1/2 ช้อนโต๊ะ
ตังฉ่าย
2 ช้อนโต๊ะ
รากผักชีสับ
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย
1 ช้อนโต๊ะ
เห็ดหอม (แช่น้ำหั่นเป็นเส้น)
5 - 6 ดอก
เต้าหู้แข็งหั่นฝอย (แช่น้ำหั่นเป็นเส้น)
1 ก้อน
ถั่วงอก ลวกสุก
1 ถ้วย
แผ่นก๋วยเตี๋ยว
5 แผ่น

วิธีทำ

1. นำน้ำมันใส่กระทะ ผัดกระเทียม รากผักชีให้หอม ใส่เต้าหู้, หมูสับ, กุ้งสับ, เห็ดหอม, ตังฉ่ายผัดให้เข้ากัน

2. ปรุงรสด้วยซีอิ๋วขาว ซอสหอยนางรม น้ำตาลทรายผัดให้เข้ากันจนสุกและแห้งตักขึ้น พักไว้

3. นำแผ่นก๋วยเตี๋ยวนึ่งในลังถึงจนร้อนแล้วจึงปิดไฟ ปล่อยให้คายร้อน พอจับได้จึงนำมาทีละแผ่นมาวางบนจาน แล้วตักเครื่องที่ผัดไว้มาใส่ตรงกลาง แล้วเกลี่ยให้ทั่วเรียงถั่วงอกแล้วม้วนเป็นวงกลม ทำแบบนี้จนหมดแผ่นก๋วยเตี๋ยว

4. นำแผ่นก๋วยเตี๋ยวที่ม้วนแล้วพร้อมเบคอนจัดแต่งใส่จานแล้วเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มพริกดองน้ำส้ม

ส่วนผสมน้ำจิ้มพริกดองน้ำส้มน้ำส้มสายชูกลั่น 5% 5 ช้อนโต๊ะ

พริกเหลืองหรือพริกชี้ฟ้า 5 เม็ด

น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

1. นำน้ำส้มสายชูกลั่น น้ำตาลทรายและเกลือผสมกันในหม้อสเตนเลส คนจนเข้ากันดี

2. นำพริกเหลืองโขลกให้ละเอียดแล้วมาใส่น้ำส้มคนให้เข้ากันอีกครั้ง ก็จะได้น้ำส้มพริกดองที่กลมกล่อม