Saturday, December 26, 2009

วีดีโอ การทำอาหาร ผัดไทย


เชิญชมการทำผัดไทย โดย 2แม่ลูกผู้น่ารัก ได้เรียนภาษาอังกฤษไปในตัวด้วย นะจะ

Tuesday, October 20, 2009

สูตรไก่ย่างโบราณ ที่ขายตามงานวัด


ส่วนผสมไก่ย่าง
• ไก่สด 3 กิโลกรัม กระเทียม 20 กลีบ
• รากผักชีหั่น 2 ช้อนโต๊ะ พริกไทย 10 เม็ด
• เกลือป่น 2 ช้อนชา ซีอิ้วหวาน 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
• ขมิ้น 2 หัว

วิธีทำ
นำไก่สดเป็นชิ้น ๆ ได้แก่ น่อง ขา ปีก สะโพก ตับ กึ๋น มาคุกเคล้ากับพริกไทยกระเทียมรากผักชี ที่โขลกละเอียด ใส่เกลือป่น ซีอิ้วหวาน และน้ำตาลทราย คลุกให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงนำมาเสียบไม้ ปีก น่อง ขาสะโพก เสียบชิ้นละไม้ สำหรับตับและกึ๋นเสียบไม้ละ 3-4 ชิ้น จากนั้นนำมาย่างเตาไฟปานกลาง
ถ้าไฟแรงเกิน โรยด้วยขี้เถ้า ย่างให้สุกเกรียมทั้ง 2 ด้าน แต่อย่าให้ไหม้

ส่วนผสมน้ำจิ้ม
น้ำจิ้มหวาน
พริกชี้ฟ้าแดงโขลกละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ถ้วยตวง
น้ำมะนาว 1 ถ้วยตวง เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มสายชู 3 ถ้วยตวง
วิธีทำ
นำน้ำส้มสายชู เกลือป่น น้ำตาล น้ำกระเทียมดอง ใส่หม้อเคี่ยวจนเป็นยางข้น ยกทิ้งไว้ให้เย็นใส่พริกแดงโขลกละเอียด คนให้เข้ากัน

น้ำจิ้มแจ่ว
พริกป่น 5 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ถ้วยตวง
น้ำมะนาว 1 ถ้วยตวง หอมหัวแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลาร้า 2 ช้อนโต๊ะ ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมผักชีหั่น 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
นำส่วนผสมทุกชนิดผสมรวมทุกชนิดให้เข้ากัน (น้ำปลาร้าจะไม่ใส่ก็ได้)

สูตร ไก่ย่างรสเด็ด


เครื่องปรุง
• ไก่จะใช้ส่วนน่องและอกก็ได้หรือจะใช้ทั้งตัวก็ได้ 2 กิโลกรัม
• ตะไคร้ 3 ต้น
• กระเทียม 20 กลีบ
• รากผักชี 7 ราก
• พริกไทยดำ 1 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• เหล้า 2 ช้อนโต๊ะ
• ซอยหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
• หอมแดง 4 หัว

น้ำจิ้ม 2 ชนิด
ชนิดที่ 1
• น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะขามเปียกต้มสุก 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาว 1-2 ช้อนชา
• ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
• หอมแดงซอย 1-2 หัว
• ผักชีฝรั่ง
• ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ

ชนิดที่ 2
• กระเทียม 5 กลีบ
• พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด
• น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง
• กระเทียมดอง 2 หัว
• เกลือ 1-2 ช้อนชา

วิธีทำ
1. โขลกส่วนผสม ตะไคร้ กระเทียม รากผักชี พริกไทยดำ หอมแดงให้ละเอียด
2. ไก่ล้างให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
3. ผสมซอสหอยนางรม เกลือ ส่วนผสมที่โขลกเคล้าให้เข้ากัน นำไก่ลงมาเคล้าให้ทั่วหมักทิ้งไว้ 30 นาที นำไปย่างไฟอ่อนจนสุกเหลือง เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม
4. น้ำจิ้ม ชนิดที่ 1 ผสมน้ำปลา น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว เข้าด้วยกันชิมรสดูให้ออกเปรี้ยวเค็ม หวาน ใส่ข้าวคั่ว พริกป่น หอมแดงซอย ต้นหอม ผักชีซอย
5. น้ำจิ้มชนิดที่ 2 โขลกกระเทียมสด กระเทียมดอง น้ำตาลทราย เกลือ พริกชี้ฟ้าแดงให้ละเอียด เข้ากันดี นำขึ้นตั้งไฟ คนพอละลาย ยกลงใช้ได้

ยากิโทริ-ไก่ปิ้งเสียบไม้


ไก่ปิ้งเสียบไม้ อาหารคลาสสิกของญี่ปุ่น ไก่หมักในทาระ (tare หรือยากิโทริซอส เป็นซอสบาร์บีคิวสไตล์ญี่ปุ่น มีกลิ่นหอมฉุนและรสหวาน) พริกญี่ปุ่น (Piman Capsicums) มีขายในซูเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่น ลักษณะเป็นพริกเม็ดเล็ก สีเขียวยาว แต่กลิ่นหอมมาก

เครื่องปรุง
• ซอสถั่วเหลืองญี่ปุ่น 60 มล.
• เหล้าสาเก 75 มล.
• เหล้ามิริน 75 มล.
• น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ
• ขาไก่ถอดกระดูก 4 ขา
• พริกญี่ปุ่น 2-3 เม็ด

วิธีทำ
1. วิธีทำยากิโทริซอส ให้ผสมซอสถั่วเหลือง เหล้าสาเก เหล้ามิริน และน้ำตาลเข้าด้วยกันในกระทะท้องแบน นำไปเคี่ยวใช้ไฟอ่อนจนซอสเริ่มเหนียวข้น รอให้น้ำซอสลดจนเหลือประมาณ 100 มล. เทใส่ชาม แล้วพักไว้ให้เย็น

2. ลอกเอาหนังไก่ออก (ถ้าไม่ชอบ) หั่นเนื้อไก่ให้เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาด 2 ซม. จากนั้นหมักไก่ในน้ำซอสปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ นานประมาณ 30 นาที ระหว่างนั้น แช่ไม้สำหรับเสียบไก่ในน้ำสะอาดทิ้งไว้

3. หั่นพริกเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาด 2 ซม. บีบเนื้อไก่สำหรับเสียบไม้ สลับกับเสียบพริก (ตามต้องการ) แล้วนำไปย่างด้วยไฟร้อนนาน 4-5 นาที พลิกกลับไปมาประมาณ 1-2 ครั้ง ทาเนื้อไก่ด้วยยากิโทริซอสใน 3 นาทีแรกของการปิ้งเท่านั้น ยกเสิร์ฟขณะร้อน

คำแนะนำ คุณสามารพใช้ยากิโทริซอสในการหมักตับไก่หรือปีกไก่ได้ก่อนจะเสียบไม้และนำไปปิ้ง เพื่อความหลากหลาย ลองเสียบผักเรียงกันเป็นแถว เช่น หน่อไม้ฝรั่ง กระเทียมญี่ปุ่น และเห็ดก็อร่อยดี เพิ่มสีสันชวนกิน

Monday, October 12, 2009

การทำอาหารลาพ


มาดูวีดีโอการทำอาหารกันต่อครับ มาดูว่าเค้าจะทำลาพให้ดูว่าทำอย่างไร

Thursday, October 1, 2009

วีดีโอการทำอาหารปอเปี๊ยทอด



มาดูกันต่อว่าวันนี้ แม่ลูกผู้น่ารัก จะมาโชว์การทำอาหารป๋อเปี๊ยทอดให้ดูกัน ว่าทำอย่างไง มีสูตรอะไรเด็ดๆ แน่นอนว่า soundtrack ครับ ไปติดตามชมกันครับ ขอบคุณ 2 แม่ลูกด้วยครับ

Monday, September 28, 2009

ข้าวผัดกระเพาไก่



มาดูการทำข้าวผัดกระเพาไก่กัน อาหารจานเดียวแบบง่ายๆ ดูซิว่าเป็นยังไง

วีดีโอการทำอาหาร พะแนงเนื้อ



การทำอาหาร วันนี้มาดูวีดีโอ การทำพะแนงเนื้อกันครับ กับ 2แม่ลูกผู้น่ารัก ดูแล้วได้ 2อย่างครับ คือการทำพร้อมกับฝึกภาษาไปด้วย

Friday, September 25, 2009

แกงเขียวหวาน



มาดูวีดีโอการทำอาหาร กับ 2 แม่ลูก น่ารักๆกันครับ สูตรการทำขนมจีนแกงเขียวหวานเป็นยังไงไปดูกัน ยังไงต้องขอบคุณ 2 แม่ลูกผู้น่ารักด้วยครับ

Wednesday, September 16, 2009

โฟรเซ็น บลู มาการิต้า (Frozen Blue Magarita)


เครื่องปรุง
ตากีลา 1 ออนซ์
บลู คูราโซ่ 1/2 ออนซ์
น้ำมะนาว 3/4 ออนซ์
น้ำเชื่อม 1/2 ออนซ์

วิธีผสม
1. เคลือบปากแก้วด้วยเกลือ
2. ใส่น้ำแข็งบด 3/4 ของแก้วแชมเปญลงในโถปั่น
3. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในโถปั่น ปั่นด้วยความเร็วต่ำจนสูงสุด จนเป็นเนื้อเดียวกัน
4. ประดับด้วยมะนาวฝานเป็นแว่น เสิร์ฟด้วยหลอดดูด

แก้ว ใช้แก้วแชมเปญ ขนาด 4-6 ออนซ์

จินเดซี่


เครื่องปรุง
จิน 1 ออนซ์
น้ำมะนาว 3/4 ออนซ์
น้ำเชื่อม 1/2 ออนซ์
น้ำเชื่อมทับทิม 1/2 ออนซ์

วิธีผสม
1. ใส่น้ำแข็งก้อนลงในเชคเกอร์ 3/4 ของแก้วสลิงลงในเชคเกอร์
2. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเชคเกอร์
3. ปิดฝาเชคเกอร์ เขย่าแรงๆเร็วๆ ให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดี
4. รินส่วนผสมผ่านฝากรองใส่แก้วแชมเปญ
5. ประดับด้วยมะนาวฝานหรือเชอร์รี่
แก้ว ใช้แก้วแชมเปญ ขนาด 4-6 ออนซ์

วิสกี้ซาวร์


เครื่องปรุง
สก๊อตซ์ วิสกี้ 1 ออนซ์
น้ำมะนาว 1 ออนซ์
นำเชื่อม 1 ออนซ์

วิธีผสม
1. ใส่น้ำแข็งก้อนเล็กลงในเชคเกอร์ 3/4 ของเชคเกอร์
2. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเชคเกอร์ เขย่าแรงๆ เร็วๆ ให้ส่วนผสมเข้ากันดี
3. รินผ่านฝากรองใส่แก้วซาวร์
4. ประดับด้วยมะนาวฝานแว่นและเชอร์รี่
แก้วใช้แก้วซาวร์ ขนาด 4-6 ออนซ์

Thursday, September 10, 2009

น้ำพริกนรก


เครื่องปรุง
พริกแห้ง 10 เม็ด
พริกขี้หนูแห้ง 20 กรัม
ปลากรอบ 1 ถ้วย
หอมแดง 10 หัว
กระเทียม 5 หัว
มะขามเปียกสับละเอียด 1/ 2 ถ้วย
เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. คั่วพริกแห้ง และพริกขี้หนูแห้ง ห่อมะขามเปียกเผาไฟพอสุก
2. คั่วปลากรอบ เผาหอม กระเทียม แกะเปลือกออก
3. โขลก พริกคั่ว มะขาม ปลากรอบ หอม กระเทียม และเกลือจนละเอียดเข้ากันดี
4. ใส่กระปุกเก็บไว้รับประทานได้นาน หรือพกติดตัวไว้รับประทานเมื่อเดินทางก็ได้

น้ำพริกถั่วเหลือง


เครื่องปรุง
พริกแห้งเม็ดโต 50 กรัม
หอมซอยบางๆ 2 ถ้วย
กระเทียมซอยบางๆ 1 ถ้วย
ถั่วเหลืองนึ่งสุกป่นละเอียด 1 ถ้วย
ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 5 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มมะขามเปียก น้ำมันพืช ตามสมควร
วิธีปรุง
นำกระทะขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไป เจียวกระเทียม หอมซอยให้เหลืองหอม ส่วนพริกแห้งนั้นทอดให้กรอบ นำทั้งหมดใส่ครกโขลกให้ละเอียด เคี่ยวน้ำตาล ซีอิ๊วขาว น้ำส้มมะขามเปียกให้เข้ากัน จนน้ำตาลเดือดร้อนอ่อนๆ และเหนียวพอสมควรแล้ว นำเครื่องที่โขลกไว้มาผสมกับเครื่องที่เคี่ยวไว้ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสตามชอบถ้ายังไม่ได้รส เสร็จตักใส่ถ้วย รับประทานกับเข้าสวยร้อนๆ หรือผักสด ผักลวกต่างๆ ฯลฯ

รูปเป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น

Sunday, August 16, 2009

ข้าวบดกับนม (อาหารเสริมเด็ก)


เครื่องปรุง
นมผสม 2/3 ถ้วย
ข้าวสุกบดละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
มาการีนหรือเนย 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ
1. เทนมใส่หม้อตุ๋น ตั้งไฟพอร้อน
2. ใส่ข้าวบด คนให้ทั่วด้วยพายไม้
3. ใส่มาการีน คนพอเข้ากัน ยกลง เติมนมอีก 1/4 ถ้วย คนให้ทั่ว

นมผสม หมายถึง นมที่ผสมสำหรับให้เด็กดื่มโดยเฉพาะ

กล้วยอบใส่น้ำผึ้ง


ส่วนผสม
กล้วยน้ำว้าสุกงอม 1 ผล
น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
มาการีน 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ
1. ผ่ากล้วยออกเป็นสองซีก ทาเนื้อกล้วยด้วยมาการีน วางลงในถาดอบ อบไฟ 350 F ประมาณ 15 นาที หรือจนกล้วยสุก

2. เอากล้วยออกจากเตา ทาเนื้อกล้วยด้วยน้ำผึ้ง ใช้ช้อนครูดเอาแต่เฉพาะส่วนเนื้อเมื่อจะป้อน

ซูชิหมูอบ (1 ขวบครึ่ง++)


เครื่องปรุง
สันนอกหมู... 1/2 กิโลกรัม
ซีอิ๊วขาว... 3 ช้อนโต๊ะ
ซอสถั่วเหลืองคิคโคแมน... 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย... 1 ช้อนชา
ข้าวเหนียวนึ่ง... 10 บาท
แครอต และแตงกวา (หรือผักอื่นที่ชอบ)
พริกไทยเล็กน้อย
แผ่นไม้สำหรับห่อซูชิ

เด็กๆ ก็ช่วยได้ : ให้เด็กช่วยตวงส่วนผสม และม้วนซูชิ
1. ล้างเนื้อหมูให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ 1 เซนติเมตร นำไปหมักกับซีอิ๊วขาว ซอสคิคโคแมนและน้ำตาล นานประมาณครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้นหั่นแครอตและแตงกวาเป็นแท่งยาว แล้วนำแครอตไปลวกให้สุก
2. นำหมูไปอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นานประมาณ 15 นาที หรือจนกว่าจะสุก ระหว่างนั้นอย่าลืมกลับหนึ่งครั้ง หั่นหมูอบเป็นเส้นยาวๆ เตรียมไว้เป็นไส้ซูชิ
3. แผ่ข้าวเหนียวลงบนแผ่นไม้ห่อซูชิให้บางที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่เกิดช่องโหว่ วางหมูอบ แครอต และแตงกวาลงตรงกลาง ม้วนให้เป็นแท่ง แล้วหั่นเป็นชิ้นๆ พอดีคำ ใส่จาน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มไก่ หรือจะรับประทานเปล่าๆ ก็ได้

ลูกบอลทอดกรอบ (1 ขวบครึ่ง++)


ขนมปัง... 2-3 แผ่น
เต้าหู้ปลาบดละเอียด... 1 ถ้วย
แป้งข้าวโพด... 1/2 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่... 1 ฟอง
เกลือ น้ำตาลและพริกไทยสำหรับปรุงรส

เด็กๆ ก็ช่วยได้ : ให้เด็กช่วยหั่นขนมปังและปั้นลูกบอล
1. ตัดขอบขนมปังทิ้งไป แล้วหั่นขนมปังเป็นชิ้นลูกบาศก์เล็กๆ ขนาดประมาณครึ่งเซนติเมตร
2. ผสมเต้าหู้ปลา และแป้งข้าวโพด ลงในชามผสม เติมเกลือ น้ำตาลและพริกไทยตามชอบ ก่อนเติมควรชิมดูก่อน เพราะส่วนมากเต้าหู้ปลามีรสชาติอยู่แล้ว จากนั้นตอกไข่ใส่ชาม ช้อนเอาแต่ไข่แดงมาใส่ในส่วนผสม คลุกให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนกลมเล็กๆ แล้วเอาลงคลุกชิ้นขนมปังที่ตัดไว้
3. ตั้งกระทะไฟกลาง เอาลูกบอลลงทอด คนและพลิกเรื่อยๆ จนสุกทั่วกันทั้งลูก ตักขึ้นพักสะเด็ดน้ำมัน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มไก่หรือน้ำจิ้มบ๊วย

ดิพไก่ต้ม (1 ขวบ++)


สันในไก่... 1 ชิ้น
แฮม... 1/2 แผ่น
มายองเนส... 1/3 ถ้วย
ไข่ต้ม... 1 ฟอง
แครอตลวกสับละเอียด... 1 ช้อนโต๊ะ

เด็กๆ ก็ช่วยได้ : ให้เด็กช่วยฉีกไก่ต้มและคนส่วนผสมให้เข้ากัน
1. ลวกสันในไก่จนสุก ฉีกเป็นชิ้นหยาบๆ ลวกแฮมแล้วสับเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ถ้วยเตรียมไว้
2. ปอกเปลือกไข่ต้ม แล้วแกะเอาแต่ไข่แดงมาบดกับมายองเนสจนเนียนเข้าด้วยกัน ส่วนไข่ขาวที่เหลืออยู่ นำมาสับหยาบๆ ผสมลงไปพร้อมกับไก่ แฮมและแครอต เสิร์ฟพร้อมแครกเกอร์ หรือจะทาขนมปังทำเป็นแซนด์วิชก็เยี่ยม

Tuesday, August 4, 2009

ไอศกรีมสามทหารเสือ (1 ขวบครึ่ง++)


ถั่วเขียว
ถั่วเขียว... 1/2 ถ้วย
น้ำ... 3 ถ้วย
น้ำตาล... 2-3 ช้อนโต๊ะ
ถั่วแดง
ถั่วแดง... 1/2 ถ้วย
กะทิ... 1 ถ้วย
นม... 1 ถ้วย
แป้งข้าวโพด... 2 ช้อนชา
น้ำตาล... 2-3 ช้อนโต๊ะ
ถั่วดำ
ถั่วดำ... 1/2 ถ้วย
กะทิ... 1 ถ้วย
นม... 1 ถ้วย
แป้งข้าวโพด... 2 ช้อนชา
น้ำตาล... 2-3 ช้อนโต๊ะ
เด็กๆ ก็ช่วยได้ : ให้เด็กๆ ช่วยตักใส่พิมพ์ และเสียบไม้ไอศกรีม
1. สำหรับหวานเย็นถั่วเขียว ใส่ถั่วและน้ำลงในหม้อ ตั้งไฟแรงจนเดือด หรี่ไฟอ่อนต้มต่อไปจนถั่วเปื่อย คนเป็นระยะๆ เติมน้ำตาลคนให้ละลาย ปิดไฟ ยกลง
2. สำหรับหวานเย็นถั่วแดงและถั่วดำ ให้เอาถั่วแช่น้ำเตรียมไว้ข้ามคืนก่อน ผสมกะทิ นม แป้งข้าวโพดและน้ำตาลลงในหม้อ คนให้ละลาย ยกขึ้นตั้งไฟอ่อน เทน้ำที่แช่ถั่วไว้ทิ้งไป แล้วใส่ถั่วลงต้มในหม้อ เคี่ยวไปเรื่อยๆ ถ้าน้ำงวดให้เติมนมเพิ่มลงไป คอยคนไปเรื่อยๆ จนถั่วสุกนิ่ม ปิดไฟ ยกลง
3. ตักใส่พิมพ์ไอศกรีม ถ้าไม่มีใช้แก้วปากกว้างก้นสอบแทนก็พอได้ วางไว้ให้เย็นลงเล็กน้อยแล้วเอาเข้าช่องแช่แข็ง ทิ้งไว้สักพัก คอยดูเป็นระยะ
พอเริ่มแข็งให้เสียบไม้ไอศกรีมลงไป เวลาจะถอดออกจากพิมพ์ให้เอาน้ำหล่อที่ก้นถ้วยไว้ครู่หนึ่ง จะดึงออกมาได้ง่าย (แต่ไอติมแบบที่มีกะทิจะดึงยากกว่านิดหน่อย)

สตูตับไก่ (สำหรับเด็ก)


เครื่องปรุง
ตับไก่หั่นเป็นชิ้นหนา 1/2 นิ้ว 300 กรัม
แครอท 1 หัว
ฟักทองหั่นสี่เหลี่ยม 1/2 ถ้วย
ถั่วแขก 6 ฝัก
มันเทศผ่าครึ่งหั่นแว่น 1/2 ถ้วย
น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 2 1/2 ถ้วย
เกลือ 1 ช้อนชา

วิธีทำ
1. เคล้าเกลือกับตับเข้าด้วยกัน
2. ผัดตับในน้ำมัน พอตับตึงตัวตักใส่หม้อ ใส่น้ำตั้งไฟ ใช้ไฟอ่อน
3. ปอกแครอทหั่นเป็นแว่นหนา 1 ซม. ถั่วแขกลอกเยื่อออกหั่นครึ่งฝัก ปอกมันเทศผ่าครึ่งลูกและหั่นเป็นแว่นหนา 1 ซม.
4. ใส่ผักทั้งหมดลงในหม้อตับตั้งไฟ ปิดฝา เคี่ยวจนผักสุกนุ่ม

หมายเหตุ สำหรับเด็กเล็ก ให้บดส่วนผสมทั้งหมดเมื่อจะทาน สำหรับเด็กโต ใช้ส้อมยีเมื่อจะ
ขอบคุณภาพจากโหระพาดอทคอม

หมูน้อยลอยลาวา (3 ขวบ++)


หมูสับ... 2 ถ้วย
มันฝรั่งหั่นเต๋า... 2 หัว
แครอทหั่นเต๋า... 1/2 หัว
หอมใหญ่หั่นเต๋า... 2 ลูก
กะทิ... 5 ถ้วย
น้ำปลา... 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ... 1 ถ้วย
น้ำส้มมะขามเปียก... 1/2 ถ้วย
ถั่วลิสง... 1/2 ถ้วย
สูตรเครื่องแกง
พริกชี้ฟ้าแห้ง... 11 เม็ด
ข่า... 1 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้... 1 ช้อนโต๊ะ
ผิวมะกรูด... 1 ช้อนชา
กระเทียม... 2 ช้อนโต๊ะ
หอมแดง... 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องเทศบด... 2 ช้อนโต๊ะ
(เครื่องเทศ ได้แก่ ลูกผักชี ยี่หร่า โป้ยกั๊ก ลูกจันทร์ นำทั้งหมดมาคั่วแล้วบดรวมกันให้ได้ 2 ช้อนโต๊ะ)
วิธีทำ
1. นำข่า ตะไคร้ และผิวมะกรูดมาซอยบางๆ แล้วนำทุกอย่างไปคั่วให้สุก พริกแห้งหั่นเป็นแว่นๆ แล้วนำไปทอด กระเทียมและหอมหั่นบางๆ นำไปทอดให้เหลือง ตักกะปิ 1 ช้อนชาลงทอดในน้ำมันให้พอหอม เมื่อครบแล้ว นำส่วนผสมทั้งหมดตำให้ละเอียด ใส่เครื่องเทศที่บดรวมกันข้างต้นลงตำ เหยาะเกลือ แล้วใส่กะปิลงตำเป็นลำดับท้ายสุด พักไว้
2. นำกะทิตั้งไฟ เคี่ยวพอแตกมัน นำเครื่องแกงที่ทำไว้ข้างต้นลงผัดในกะทิให้หอม ใส่มันฝรั่ง แครอท หอมใหญ่ ถั่วลิสง และหมูสับที่ปั้นเป็นก้อน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก ชิมให้ได้รสตามชอบ

เด็กๆ ก็ช่วยได้ : ช่วยโรยถั่วลิสงบนแกงมัสมั่น เวลาเสิร์ฟ

ช็อกโก ฟรุ้ตตี้ (1 ขวบครึ่ง++)



เนยจืด... 1 ช้อนชา
ช็อกโกแลตแท่ง... 250 กรัม
ผลไม้ตามชอบ
ไม้เสียบลูกชิ้น

เด็กๆ ก็ช่วยได้ : ให้เด็กๆ ชุบช็อกโกแลตด้วยตนเองได้เลย
1. ปอกผลไม้และหั่นเป็นชิ้นพอคำ นำไปแช่ตู้เย็นเตรียมไว้
2. ใส่เนยลงในหม้อใบเล็ก ตั้งไฟอ่อนสุด หักช็อกโกแลตเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ลงไป คนให้ถึงก้นหม้อเป็นระยะๆ จนละลายดี ระวังอย่าให้ไหม้
3. ใช้ไม้เสียบลูกชิ้นเสียบผลไม้ที่เตรียมไว้ลงชุบในช็อกโกแลต แล้วนำมาปักพักไว้ในแก้วทรงเตี้ยโดยให้ผลไม้ตั้งขึ้น และระวังให้ปลายไม้บานออกจากกัน เพื่อไม่ให้แต่ละชิ้นไหลมาชนกัน เอากลับไปแช่ตู้เย็นอีกรอบ รอตัวป่วนกลับมาจากโรงเรียนก็ถอดออกจากไม้ ยกมาเสิร์ฟได้ทันที หรือจะประยุกต์เสิร์ฟแบบช็อกโกแลตฟองดูก็สนุกไปอีกแบบ

ยำใหญ่ของเจ้าตัวเล็ก (3 ขวบ++)



แตงกวาฝาน (เอาไส้ออก)... 1/2 ถ้วย
หอมใหญ่ซอย... 1/2 ถ้วย
ใบคึ่นฉ่ายอ่อน... 1/2 ถ้วย
แครอทขูดฝอย... 1/2 ถ้วย
ถั่วลิสงคั่วบด... 1/4 ถ้วย
หัวกะทิ... 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย... 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว... 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา... 2 ช้อนโต๊ะ
เนื้อหมูต้มฉีกฝอย... 1 ถ้วย
เนื้อไก่ต้มฉีกฝอย... 1 ถ้วย
กุ้งสดลวก... 5-7 ตัว
วิธีทำ
1. เตรียมผัก นำแตงกวาหั่นบางๆ เอาแต่ส่วนเนื้อ พักไว้ นำใบคึ่นฉ่ายมาเด็ดเอาแต่ใบอ่อนๆ พักไว้ หัวหอมใหญ่ซอยเป็นเส้นเล็กๆ แครอทสับแล้วฝานหรือขูดฝอยเป็นเส้นๆ พักไว้
2. ต้มเนื้อหมูและเนื้อไก่ให้สุก แล้วฉีกฝอยพักไว้
3. นำส่วนผสมทุกอย่างใส่ในชามผสม ปรุงรสด้วยมะนาว น้ำปลา น้ำตาลและหัวกะทิ โรยถั่วลิสงบด คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จานเสิร์ฟ
เด็กๆ ก็ช่วยได้ : ให้เด็กช่วยฉีกไก่กับหมูต้ม และเด็ดใบคึ่นฉ่าย

Wednesday, July 29, 2009

ล่าเตียง (2 ขวบ++)


หมูสับ... 1 ถ้วย
กุ้งสับละเอียด... 1/2 ถ้วย
ถั่วลิสงคั่วบุบ... 1/4 ถ้วย
หอมใหญ่สับเล็กๆ... 1/4 ถ้วย
น้ำปลา... 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ... 3 ช้อนโต๊ะ
รากผักชี... 1 ราก
พริกไทย... 8-10 เม็ด
กระเทียม... 3 กลีบ
ผักชีเด็ดเอาแต่ใบ... 1/4 ถ้วย
แครอทขูดฝอย... 2 เม็ด
ไข่เป็ด... 4 ฟอง
วิธีทำ
1. โขลกรากผักชี พริกไทยและกระเทียมให้ละเอียด ใส่น้ำมันในกระทะตั้งไฟ แล้วเอาเครื่องรากผักชีลงผัดให้หอม ใส่หมู กุ้งและหอมใหญ่ลงผัดให้สุก เติมน้ำปลา น้ำตาลและถั่วลิสง ผัดจนงวด ยกลง
2. ตอกไข่ใส่ชาม แล้วตีให้แตกดี ทาน้ำมันให้ทั่วกระทะก้นแบน ตั้งไฟอ่อน พอกระทะร้อน ใช้มือจุ่มไข่ วาดเป็นสายลงในกระทะ ให้เป็นตารางขนาดใหญ่พอห่อได้ 1 คำ พอไข่สุกค่อยๆ ลอกขึ้นมาวางพักไว้บนจาน
3. ห่อล่าเตียง โดยตักไส้พอคำวางลงตรงกลางแผ่นไข่ พับห่อเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดประมาณ 1 นิ้ว จัดใส่จานตกแต่งหน้าด้วยใบผักชีและแครอทขูดฝอย เสิร์ฟเป็นของว่างหรือรับประทานพร้อมข้าวก็ได้

เด็กๆ ก็ช่วยได้ : ให้เด็กๆช่วยห่อไข่ด้วย หรือช่วยตักส่วนผสมวางลงบนไข่ก่อนห่อ

เกาอ้วนกลมคลุกหิมะ (2 ขวบ++)


แป้งข้าวเหนียว... 3 ถ้วย
น้ำสะอาด (สำหรับผสมแป้ง)... 1 ถ้วย
น้ำสะอาด (สำหรับต้มไส้)... 4 ถ้วย
มะพร้าวทึนทึกขูด (สำหรับทำไส้)... 4 ขีด
มะพร้าวทึนทึกขูด (สำหรับคลุก)... 1 ขีด
น้ำตาลปี๊บ... 1/2 กิโลกรัม
วิธีทำ
1. เตรียมไส้ก่อนโดยตักน้ำ 4 ถ้วยใส่กระทะตั้งไฟแรง เติมน้ำตาลปี๊บ ต้มจนเดือด ใส่มะพร้าว 4 ขีดลงไปผัดจนเหนียวพอประมาณ ปิดไฟ พักไว้ให้เย็นลง
2. เทแป้งใส่ชามผสม ค่อยๆ รินน้ำลงไปทีละน้อย แล้วกวนให้เข้ากัน นวดจนแป้งเนียนดีแล้วปั้นแป้งเป็นก้อนกลมขนาดหัวแม่มือ แผ่แป้งออก ปั้นไส้ที่เตรียมไว้เป็นก้อนขนาดหัวแม่มือ ใส่ลงตรงกลางแล้วห่อปิดให้มิดเป็นลูกกลมๆ
3. เทมะพร้าวขูดสำหรับคลุกใส่จานรอไว้ ตั้งหม้อต้มน้ำไฟแรง พอเดือดใส่ขนมลงไป รอให้ลอยขึ้นมาก็ใช้กระชอนช้อนขึ้นให้สะเด็ดน้ำ แล้วเอาลงคลุกมะพร้าวขูด

เด็กๆ ก็ช่วยได้ : ให้เด็กปั้นขนมต้มและคอยคลุกมะพร้าวเวลาคุณแม่ช้อนขนมต้มขึ้นมา

หมูอบกับน้ำส้มคั้น (เด็ก)


เครื่องปรุง
หมูสันใน 200 กรัม
น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1/2 ช้อนชา
แป้งสาลี 1 ช้อนชา
กระเทียมสับละเอียด 2 กลีบ
น้ำซุป 1/4 ถ้วย
น้ำส้มคั้น 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. หั่นหมูเป็นชิ้นหนา 1/2 นิ้ว เคล้าหมูด้วยน้ำส้มสายชู กระเทียม เกลือ หมักไว้ประมาณ 30 นาที
2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันจนร้อน เคล้าหมูด้วยแป้งสาลี ลงทอดในน้ำมันให้เหลืองทั้งสองด้าน
3. ตักหมูที่ทอดใส่หม้อ ใส่น้ำซุป น้ำส้มคั้น ยกขึ้นตั้งไฟอ่อน ปิดฝาเคี่ยวจนนุ่มจึงยก

โจ๊กรับอรุณ (1 ขวบ++)



ข้าวสำหรับต้มโจ๊ก...1/2 ถ้วย
หมูสับ...1/2 ถ้วย
แครอทหั่นเต๋า...1/3 ถ้วย
เต้าหู้เส้นอบแห้ง...4-5 เส้น

เด็กๆ ก็ช่วยได้ : ให้เด็กช่วยตวงส่วนผสม ปรุงรสหมูสับ และโรยเต้าหู้ทอดกรอบ
1. ใส่ข้าวในหม้อ แล้วเติมน้ำลงไปประมาณ 3 ถ้วย ใส่เกลือเล็กน้อย เอาตั้งไฟแรงจนเดือดแล้วหรี่ไฟลง ต้มต่อไปจนข้าวแตกเม็ดเปื่อยตามที่ชอบ หมั่นคนเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้ข้าวติดก้นหม้อ
2. ลวกแครอทให้พอสุก แบ่งแครอท 1 ช้อนโต๊ะออกมาสับกับหมูสับ เติมซีอิ๊วขาว พริกไทยและแป้งมันอย่างละเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนเล็กๆ พอคำแล้วเอาลวกในน้ำเดือด
3. ใส่แครอทส่วนที่เหลือลงต้มในข้าวพร้อมหมูสับ ถ้าน้ำแห้งให้เติมน้ำซุปลงไปแล้วคนให้เข้ากัน รอจนเดือดดีอีกครั้ง ตักใส่ชาม โรยหน้าด้วยแผ่นเต้าหู้ที่ทอดกรอบแล้ว
ขอบคุณภาพจากโหระพาดอทคอม

Thursday, July 23, 2009

ซุปใสแฟนซี (1 ขวบครึ่ง++)



มะกะโรนีแบบที่ชอบ...1/2 ถ้วย
สันในไก่...1 เส้น
หอมใหญ่หั่นเต๋า...1/3 ถ้วย
ใบตำลึงอ่อนสับหยาบ...2 ช้อนโต๊ะ

เด็กๆ ก็ช่วยได้ : ให้เด็กช่วยฉีกไก่ต้มและเลือกมะกะโรนีที่เขาชอบ
1. ต้มมะกะโรนีในน้ำเดือดนานประมาณ 7 นาทีหรือจนสุก เติมเกลือและน้ำมันเล็กน้อย ตักขึ้น พักไว้
2. ใส่น้ำซุปประมาณ 2 ถ้วย ลงในหม้ออีกใบ ใส่ไก่และหอมใหญ่ลงไปต้ม ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำตาลเล็กน้อย พอไก่สุกให้ตักขึ้นพักไว้ แล้วต้มหอมใหญ่ต่อไปจนสุกเปื่อย
3. ใส่ใบตำลึงและเส้นมะกะโรนีลงในน้ำซุป ปิดไฟ ตักใส่ชาม ฉีกไก่เป็นเส้นๆ โรยลงในชาม เสิร์ฟทันที

ข้าวผัดสเต็กปลา (2 ขวบ++)


ข้าวสวย...1 ถ้วย
ปลาอินทรีหั่นตามขวาง...2 ชิ้นเล็ก
บร็อคโคลีหั่นเอาแต่ยอดเป็นชิ้นเล็กๆ...1/2 ถ้วย
เห็ดหอมสดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ...1/4 ถ้วย
เด็กๆ ก็ช่วยได้ : เด็กๆ ช่วยตวงส่วนผสมและล้างผัก
1. ตั้งกระทะไฟกลาง ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย พอร้อนใส่บร็อคโคลีลงผัด เติมน้ำได้เล็กน้อย ไม่ให้ผักไหม้ พอสุกใส่เห็ดลงผัด ตามด้วยข้าว ปรุงรสด้วยน้ำตาล ซีอิ๊วขาว พริกไทยและซอสปรุงรส ถ้าอยากให้สีเข้มเหยาะซีอิ๊วดำลงไปเล็กน้อยด้วย ผัดให้เข้ากัน ตักขึ้น พักไว้

2. เติมน้ำมันในกระทะสำหรับทอดปลา พอกระทะร้อน เอาเกลือทาปลาเล็กน้อย แล้วเอาลงทอดให้สุกเหลืองทั้งสองด้าน ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน

3. เตรียมซอสโดยเอาส่วนผสมทั้งหมดตั้งไฟในกระทะคนให้น้ำตาลละลาย ตักขึ้น กดข้าวผัดใส่ถ้วยแล้วคว่ำลงในจานเสิร์ฟ วางชิ้นปลาทอดลงด้านข้าง เสิร์ฟพร้อมซอส

พายขนมกล้วย (1 ขวบ++)



กล้วยน้ำว้าสุกขยำเละ...1/2 ถ้วย
แป้งข้าวเจ้า...1/4 ถ้วย
แป้งมัน...1/4 ถ้วย
กะทิ...1 ออนซ์

เด็กๆ ก็ช่วยได้ : เด็กๆ ช่วยขยำกล้วยให้เละหรือคนส่วนผสมได้
1. ใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงในชามผสม คลุกเคล้าเบาๆ พอให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว ถ้าอยากให้หวานขึ้น เติมน้ำตาลทรายแดงลงไป 2 ช้อนชาได้ แต่อาหารเด็กปรุงรสอ่อนหน่อยจะดีกว่านะคะ
2. เทใส่ถ้วยทนไฟหรือพิมพ์ขนมที่ใช้นึ่งได้ แล้วเอาลงนึ่งในรังถึงที่น้ำเดือดนานประมาณ 20 นาที ใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มขนมดูให้ลึกถึงก้นถ้วย ถ้าไม่มีเนื้อขนมติดปลายไม้ขึ้นมาก็แสดงว่าสุกดีแล้ว ปิดไฟ ยกลง ถ้าชอบก่อนเสิร์ฟจะโรยหน้าด้วยมะพร้าวขูดก็ได้

ต้มจืดสีรุ้ง 1 ขวบครึ่ง++



เนื้อปลากะพงแร่ตามยาว 10 ชิ้น
ปีกไก่ 5 ปีก
แครอท หั่นเป็นท่อนพอดีคำ 1/2 ถ้วย
ซูกินี่ ไม่ต้องปอกเปลือกหั่นพอดีคำ 1/2 ถ้วย
ฟักทองหั่นพอดีคำ 1/2 ถ้วย
ก้านขึ้นฉ่ายลวก 10 ก้าน
กระเทียม พริกไทย รากผักชี โขลกละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. นำปลากะพงมาล้างให้สะอาดแล้วซับให้แห้งก่อนวางแครอท ซูกินี่บนชิ้นปลาแล้วม้วนเข้าด้วยกัน ผูกด้วยก้านขึ้นฉ่ายลวกแล้วพักไว้
2. ตั้งน้ำครึ่งหม้อใส่กระเทียมพริกไทยรากผักชีโขลกที่เตรียมไว้ ตามด้วยปีกไก่ ปลาม้วน เมื่อน้ำเดือดแล้วจึงใส่ฟักทองหรือผักอื่นๆ ที่เตรียมไว้ ปรุงรสได้ตามใจชอบ เสิร์ฟร้อนๆ ซดคล่องคอ

เด็กๆ ก็ช่วยได้
เตรียมผักให้คุณแม่ กับหน้าที่เฉพาะกิจไม่มีบ่อยๆ อย่างม้วนปลาก็น่าสนุกดี แต่เบามือหน่อยแล้วกันนะ
การนึ่ง ย่าง อบ และต้มจะช่วยรักษาน้ำมันที่มีประโยชน์ในปลา (อย่างกรดไขมันตระกูลโอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงและป้องกันโรคหัวใจ วิตามินเอช่วยบำรุงสายตา ผิวพรรณ และวิตามินดีที่ช่วยในการเจริญเติบโต พร้อมเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง) ให้คงอยู่และเกิดประโยชน์แก่ร่างกายเรามากที่สุด

ปลาน้อยท่องวารี (อาหารเด็ก)


ส่วนผสม
ข้าวสวย 1 ถ้วยตวง
หมูบด 1/2 ถ้วยตวง
ข้าวโพดต้ม 3 ช้อนโต๊ะ
สปาเกตตี้ต้ม 20เส้น
ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม 1 ช้อนชา
ซอสเห็ดหอม 1 ช้อนชา
ไข่ไก่ 1/2 ฟอง
เม็ดถั่วลันเตา
ซอสมะเขือเทศ

วิธีทำ
1. ผสมหมูบดกับซีอิ๊วขาวเห็ดหอมและซอสเห็ดหอมและไข่ไก่ให้เข้ากัน
2. ปั้นเป็นรูปตัวปลา ใช้ข้าวโพดต้มมาตกแต่งเป็นเกล็ดปลา
3. นำปลาไปนึ่งให้สุก พักให้เย็น นำไปทอดอีกครั้งให้เหลืองและหอม
4. ตักข้าวสวยใส่จาน นำเส้นสปาเก็ตตี้ที่ต้มแล้วนำมาพันเป็นเกลียวโดยรอบข้าวสวย
5. จัดปลาใส่ตรงกลาง ใช้เม็ดถั่วลันเตาเป็นฟองอากาศและผักสดต่างๆ เป็นสาหร่าย
6. ตกแต่งปลาด้วยซอสมะเขือเทศ

ขอบคุณภาพจากโหระพาดอทคอมด้วยครับ

Tuesday, June 30, 2009

ข้าวอบฟักทอง


เมนูข้าวนี้ขอบอกว่าประโยชน์มากหลายจริงๆอุดมด้วยวิตามินเอและเบต้าแคโรทีน คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังคิดหาเมนูอาหารใหม่ๆสำหรับคุณหนูๆที่กำลังเบื่ออาหารคงต้องลองนำเมนูนี้ไปลองทำแล้วล่ะ รับรองว่ากลิ่นฟักทองหอมๆที่อบอวลแทรกซึมอยู่ในเมล็ดข้าวนุ่มๆนี้จะต้องทำให้เจ้าตัวเล็กของคุณติดอกติดใจจนวางช้อนไม่ลงเชียวล่ะค่ะ
ส่วนผสม
ฟักทองผลเล็ก 1 ผล
กุ้งสด 4 ตัว
ข้าวสวย 2 ถ้วยตวง
เมล็ดถั่วลันเตา 1/4 ถ้วยตวง
แครอทหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก 1/4 ถ้วยตวง
หอมใหญ่หั่นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก 1/4 ถ้วยตวง
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
น้ำมันพืชหรือเนยสด 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. เจาะผลฟักทองเป็นช่อง คว้านเอาเมล็ดออก ล้างข้างในให้สะอาด
2. นำผลฟักทองไปนึ่งประมาณ 5นาทีให้สุกเล็กน้อย นำขึ้น คว่ำผลฟักทองให้น้ำภายในออกให้หมด
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชหรือเนยสด พอร้อนใส่หอมใหญ่ผัดให้นุ่ม ใส่กุ้งสด เมล็ดถั่วลันเตา ผัดพอสุกใส่ข้าวสวย ปรุงรสด้วยซอสปรุงรสและน้ำตาลทรายผัดให้เข้ากัน
4. ตักข้าวใส่ผลฟักทอง นำผลฟักทองไปนึ่งต่อประมาณ 15 นาที จนผลฟักทองสุกทั่ว ยกลงพร้อมเสิร์ฟ
ขอบคุณโหระพาดอทคอมสำหรับภาพประกอบ

Monday, June 29, 2009

สลัดสารพัดสี 1 ขวบ++


เตรียมไว้ก่อน
ผักลวก
ฟักทอง แครอท มันฝรั่ง หัวไชเท้า ปอกเปลือก และหั่นเต๋า ลวกแล้วพักไว้
ผักสดและอื่นๆ
ผักกาดแก้ว
ผักกาดหอม
มะเขือเทศสีดา
กะหล่ำปลีม่วงซอย
ลูกบีทรูทหั่นเต๋า
และผลไม้อื่นๆ ตามชอบ
กุ้งลวกสุก
ปู หรือปูอัดลวก
น้ำสลัดชนิดที่เด็กๆ ชอบ
วิธีทำ
จัดทั้งผักลวกและผักสดใส่จาน โรยหน้าด้วยกุ้ง ปูหรือปูอัดลวก เสิร์ฟพร้อมน้ำสลัด

เด็กๆ ก็ช่วยได้
เด็กๆ มาโชว์ฝีมือการจัดวางผักสลัดอย่างมีระดับกันหน่อยเร็ว!
เคล็ดลับอย่างหนึ่งสำหรับการปรุงอาหารประเภทผักก็คือ ควรหั่นผักตอนที่ใกล้จะลงมือทำอาหารมากที่สุด และไม่ควรหั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนเกินไปเพราะอาจทำให้สูญเสียคุณค่า และวิตามินโดยเปล่าประโยชน์ได้ แถมยังดูไม่น่ากินด้วย

Sunday, June 28, 2009

Crispy Onion Soup (1 ขวบ++)


ซุปน้ำใส ใส่ขนมปังกรอบ
เวลาเตรียม 5 นาที
เวลาปรุง 15 นาที
เตรียม Crispy กันก่อน
ขนมปังปอนด์หั่นเต๋า 2 ถ้วย
เนยละลาย 1 ถ้วย
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันดอกทานตะวัน 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ พริกไทย ใบไทม์เล็กน้อย
วิธีทำ
1. คลุกขนมปังกับกระเทียมสับ เกลือ พริกไทย และใบไทม์ เมื่อเข้ากันดีแล้ว จึงใส่เนยที่ละลายไว้ กับน้ำมันดอกทานตะวัน คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง
2. ตั้งเตาอบด้วยอุณหภูมิ 150 องศสาเซลเซียสจนเตาร้อน แล้วนำขนมปังเข้าเตา อบต่ออีก 5 นาที จะได้ขนมปังกรอบอร่อยไว้หม่ำกัน
Tip: สำหรับคุณแม่บ้านไหนที่ใช้ไมโครเวฟ ให้อบขนมปังที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส
นาน 2-3 นาที พอขนมปังเริ่มมีสีเหลืองอ่อน ให้รีบนำออกจากเตาทันที เท่านี้ก็จะได้ขนมปังเหลืองสวย และกรอบกำลังดีแล้วค่ะ
ซุปหอมหัวใหญ่ใส่ความรัก...
หอมหัวใหญ่ขนาดกลาง หั่นชิ้นใหญ่ 5 - 6 หัว
น้ำซุป 5 ถ้วย (เตรียมน้ำซุปง่ายๆ เพียง ต้มซี่โครงไก่ กับน้ำด้วยไฟอ่อน เคี่ยวไปเรื่อยๆ แล้วกรองเอาแต่น้ำใสๆ เก็บไว้ใช้ได้ตั้งหลายอย่าง)
เกลือพริกไทย ใบกระวานเพิ่มกลิ่นหอมเล็กน้อย
วิธีทำ
ตั้งหม้อน้ำซุปใช้ไฟกลาง รอจนเดือด ใส่หอมหัวใหญ่ต้มจนหอมสุก ใส่ใบกระวาน แล้วปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย เคี่ยวต่อไปจนหอมหัวใหญ่เปื่อย ค่อยยกลงเสิร์ฟพร้อมกับขนมปัง
กรุบกรอบของเรา
เด็กๆ ก็ช่วยได้
ล้างหอมหัวใหญ่และส่งเครื่องปรุงให้หม่ามี้ เลยจ้าเด็กๆ
หอมหัวใหญ่ พืชในตระกูลเดียวกับกระเทียม มีสรรพคุณช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ป้องกันการแข็งตัวของเลือด และช่วยบรรเทาอาการหวัดคัดจมูกได้ดี

Saturday, June 27, 2009

น้ำพริกคุณหนู (วัยอนุบาล)


ส่วนผสม
กระเทียมแกะเปลือก 5-6 กลีบ
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
กุ้งแห้งป่น 1 ช้อนโต๊ะ
มะนาว 1 ลูก
ส้มเขียวหวานคั้น 1 ผล

วิธีทำ
1. ตำกระเทียมพอแหลก แล้วใส่กะปิลงไปตำให้เข้ากัน (ควรนำกะปิห่อใบตองแล้วนำไปย่างไฟเพื่อให้สุกเสียก่อน)
2. ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ มะนาวและน้ำส้มคั้น ชิมรสตามชอบแล้วจึงใส่กุ้งแห้งป่น คนให้เข้ากันอีกที
3. เสิร์ฟใส่ถ้วยใบเล็กน่ารัก กินกับผักที่คุณหนูชื่นชอบ เช่น แตงกวา ผักบุ้ง ผักกาดขาว (ถ้าลูกกินผักสดบางชนิดไม่เก่งอาจนำผักไปลวกก่อนก็ได้)

หมายเหตุ
พริกในรูป ตกแต่งให้สวยงาม แต่อย่าเผลอให้ลูกรักกินเชียวนะคะ

น้ำพริกเป็นอีกเมนูคู่คนไทยที่ครบคุณค่ามีทั้งโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุต่างๆและผัก เคล็ดลับในการกินน้ำพริกให้อร่อยก็คือ ต้องมีเครื่องเคียงและผักสด เช่นน้ำพริกเผากินกับไข่ต้ม น้ำพริกตาแดงกินกับไข่เค็ม น้ำพริก(กะปิ)คุณหนูก็ต้องคู่กับปลาทู ส่วนวิธีที่ช่วยให้ลูกกินผักได้ กินอร่อย ต้องเริ่มต้นที่พ่อแม่เห็นคุณค่าและกินผักอย่างเอร็ดอร่อยเป็นตัวอย่าง และควรมีผักในมื้ออาหารของครอบครัวเป็นประจำ
ขอบคุณภาพจากโหระพาดอทคอม

ปลาซาบะต้มซีอิ๊วญี่ปุ่น ( +6 เดือนขึ้นไป)


ส่วนผสม
ปลาซาบะขนาดกลาง 1 ตัว
ขิง 4-5 แว่น
ซีอิ๊วคิคูแมน (ซีอิ๊วญี่ปุ่น) (ถ้าไม่มีใช้น้ำตาลปี๊บแทน) 1 ถ้วยตวง
น้ำส้มสายชู 1 ช้อนชา

วิธีทำ
1. หั่นปลาซาบะตามขวางเป็นแว่น อย่าหนามากนัก
2. เอาขิงวางเรียงลงในหม้อ เอาปลาวางทับ เทซอสคิคูแมน (หรือแทนด้วยน้ำตาลปี๊บ 1-2 ช้อนชาลงไปแทน แล้วแต่ชอบหวานแค่ไหน) และใส่น้ำส้มสายชูลงไป
3. เติมน้ำให้ท่วมเนื้อปลา แล้วนำไปต้มด้วยไฟกลาง เมื่อเดือดแล้วลาไฟ เคี่ยวต่อให้น้ำงวดลง

เราคุ้นเคยกับการกินปลาซาบะย่างมากกว่าการปรุงด้วยวิธีอื่น แต่รู้หรือไม่ว่า น้ำมันจากปลาที่มีประโยชน์ เช่น สารโอเมก้า 3 ซึ่งช่วยบำรุงสมอง แก้ภูมิแพ้ และทำให้เด็กมีภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อ จะสูญเสียไปกับการย่าง ดังนั้นคุณแม่ควรเปลี่ยนวิธีปรุงปลามาเป็นการต้มหรือนึ่งจะดีกว่า...ต้มยำปลาซาบะ (ไม่ใส่พริก) นั้นอร่อยนัก เครื่องต้มยำก็ช่วยดับคาวปลาได้ ส่วนปลาซะบะนึ่ง ใช้ขิงเป็นตัวช่วยดับคาวได้ค่ะ
ขอขอบคุณภาพจากโหระพาดอทคอม ครับ

Friday, June 26, 2009

อาหารเสริมสำหรับทารกในขวบแรก

อายุ 1 เดือน ให้น้ำส้มคั้น 1 ช้อนชา ผสมน้ำสุก 1 ช้อนโต๊ะ ถ้าเปรี้ยวเติมน้ำเชื่อมก่อนกินนมมื้อแรก ต่อไปค่อยๆเพิ่มจำนวนมากขึ้น จนได้ประมาณวันละ 1/2 - 1 ผล

อายุ 2 เดือน น้ำข้าว เริ่ม 1 ช้อนโต๊ะ จนถึง 1/2 ถ้วย

อายุ 3 เดือน
- เปลี่ยนจากน้ำข้าว เป็นข้าวบด เริ่ม 1-2 ช้อนชา แล้วเพิ่มเป็น 1-2 ช้อนโต๊ะ
- ไข่แดง ไข่ลวก 1 ช้อนชา ผสมในข้าวหลังจากกินข้าวได้
- เมื่อรับประทานข้าวได้ดี ให้ผักต้ม น้ำต้มกระดูกไก่ น้ำต้มตับ
- ต่อมาให้หัดกิน น้ำต้มผัก เช่นผักบุ้ง ตำลึง ใบผักกาดขาว ถั่วแขก ถั่วฝักยาว (ผักที่ไม่มีกลิ่นแรงและรสขม หรือผักที่มีในพื้นบ้านที่กลิ่นไม่แรงรสไม่ขมเป็นใช้ได้)

อายุ 4 เดือน เริ่มให้กล้วยน้ำว้าสุกครูด

อายุ 5 เดือน ไข่แดงต้มแข็ง 1/4 ฟอง ค่อยเพิ่มให้เต็มฟองผสมกับข้าวบดและผักต้มเละๆบด

อายุ 6 เดือน ให้อาหารผสมแทนน้ำนมได้ 1 มื้อ

อายุ 7 เดือน
- อาหารเนื้อต่างๆบดละเอียด ให้ลองกินไข่ขาวและไข่แดงพร้อมกัน ถ้าแพ้ต้องเลื่อนไป 1 ขวบ
- อาหารกรอบ เช่นขนมปังปิ้งกรอบๆ ข้าวตั้งทอดกรอบๆบางๆ มันทอดกรอบ ข้าวเกรียบถั่ว กุ้งทอดกรอบ เป็นต้น

อายุ 8 เดือน
- เริ่มให้อาหารแทนน้ำนม 1 มื้อโดยให้แต่น้อย
- เริ่มให้ของหวาน เช่น แป้งกวนกับน้ำตาลใส่นม สาคูเปียก ข้าวยาคู

อายุ 9 เดือน เปลี่ยนนมแม่เป็นนมผงหรือนมกระป๋องชนิด Whole Milk สำหรับเด็ก

อายุ 10 เดือน ให้อาหารผสมกับน้ำนมอีก 1 มื้อ

Thursday, June 25, 2009

อาหารเสริมประเภทต่างๆสำหรับเด็ก

ข้าว แป้ง
อาหารเสิรมชนิดแรกของเด็ก คือ แป้ง อาหารประเภทแป้งเป็นอาหารที่นุ่ม ไม่เป็นกาการะคาย สามารถเตรียมได้ให้มีลักษณะคล้ายนม ความข้น ความเหลวควรจะให้เหมาะกับวัยของเด็ก อาหารแป้งที่ให้เด็กจะใช้ข้าว แป้งข้าวเจ้า แป้งท้าวยายม่อม แป้งสาลี สาคูเม็ดเล็ก

ผัก
เด็กควรจะได้เริ่มหัดกินผักเมื่ออายุ 3 เดือน คือพร้อมๆกับเนื้อ โดยต้มให้เปื่อย บดหรือยี ควรให้วันละ 1 ครั้งก่อน ผักแต่ละอย่างที่ให้เด็กควรจะให้ซ้ำกัน 4-5 วันจึงเปลี่ยนเป็นผักชนิดใหม่ เพื่อให้เด็กชินกับการกินผักชนิดนั้นก่อน เพื่อให้เด็กกินผักเป็นทุกชนิดเพราะผักแต่ละอย่างมีความมากน้อยในวิตามิน เกลือแร่ โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตต่างกัน

เมื่อเด็กกินผักแล้วเกิดอาการผิดปกติ เช่นเป็นผื่น บวมแดงบริเวณก้น ท้องเสีย อาการเช่นนี้จะเกิดทันทีหลังจากกินผักนั้นๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ ควรจะหยุดป้อนผักชนิดนั้นก่อน ค่อยเริ่มใหม่ในเดือนต่อไป หรือทิ้งระยะสัก 2 เดือนจึงเริ่มใหม่

การทำผักให้เด็กอายุ 3 เดือน ผักที่ให้ควรต้องต้มให้เปื่อย บดหรือยีให้ละเอียด เลือกผักที่กากน้อย เช่นใบผักโขม มันเทศ ใบผักบุ้ง ใบตำลึง ฟักทอง มันฝรั่ง วิธีทำอาหารผักให้เด็กเล็กๆง่าย ก่อนอื่นต้องเลือกผักที่สด ใหม่ ไม่แก่ ล้างให้สะอาด แล้วต้มใช้หม้อเล็กๆปิดฝาต้ม เคี่ยวให้ผักเปื่อยเป็นใช้ได้ ไม่ควรใส่น้ำมาก และควรจะใช้น้ำต้มผักนั้นด้วย เพราะเกลือแร่และวิตามินจะอยู่ในน้ำต้มผักนั้นด้วย เติมเกลือเพียงเล็กน้อยลงในผักที่ต้ม

กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี เพื่อความแน่ใจว่าเด็กจะไม่ท้องอืด เพราะผักประเภทนี้เมื่อกินแล้วจะทำให้เกิดแก๊ซได้ อาจทำให้เด็กท้องอืด เสียดท้องได้ ผักประเภทนี้ ควรจะให้เมื่อเด็กอายุ 9 เดือนหรือ 1 ขวบขึ้นไป ผักประเภทหัวและราก เช่น ไชเท้า แครอท หอมหัวใหญ่ บวบ ถั่วงอกและผักอื่นๆควรจะเริ่มให้เด็กเมื่ออายุ 3-4 ขวบขึ้นไป เด็กเมื่อโตขึ้นย่อมมีความรู้สึกเรื่องรสและกลิ่นดีขึ้นเป็นลำดับ นอกจากเด็กจะมีความรู้สึกเรื่องรสแล้ว ยังมีความรู้ในเรื่องกลิ่น ฉะนั้นในการเลือกผักทำอาหารให้เด็กต้องดูวัยของเด็ก เปลี่ยนแปลงวิธีการหุงต้มผักตามวัยของเด็ก เช่น จากผักบดเป็นต้มเปื่อย เป็นอบ เป็นผัด และให้เด็กได้หัดกินผักสดบ้างเมื่ออายุ 3 ขวบขึ้นไป เริ่มทดลองให้กินผักที่มีรสหวาน เช่น แตงกวา มะเขือเทศ

ครั้งแรกเมื่อให้ผักแก่เด็ก ควรเริ่มจากผักใบเขียว เช่น ใบตำลึง ใบผักบุ้ง ผักโขม โดยเริ่มตั้งแต่ 1 ช้อนชา แล้วจึงค่อยๆเพิ่มขึ้นเป็น 2 ช้อนโต๊ะ และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนถึง 1/4 ถ้วย การให้อาหารประเภทผักควรจะเริ่มให้ในมื้อบ่ายหรือเที่ยงก่อน โดยผสมกับข้าวและเนื้อสัตว์ต่างๆ ต่อมาจึงเพิ่มให้มื้อเย็นอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เมื่อเด็กกินอาหารทั้ง 3 มื้อ มือ้เช้าควรจะเป็นน้ำผลไม้ ผลไม้สด มื้อกลางวันและมื้อเย็นควรจะให้ทั้งผักใบเขียวและผักสีเหลือง

ผักที่ใช้ทำอาหารให้เด็กควรเลือกผักที่สดและใหม่ และควรเป็นผักที่หาได้ในท้องถิ่น ล้างผักให้สะอาดโดยใช้น้ำมากๆ ล้างหลายๆครั้งก่อนที่จะทำเป็นอาหารให้เด็ก

เนื้อสัตว์
เนื้อแลไก่ควรจะเริ่มให้เมื่อเด็กอายุ 3 เดือน เนื้อและไก่เป็นอาหารที่ให้สารอาหารโปรตีน โปรตีนเป็นสารอาหารที่ทำให้ร่างกายเจริญเติบโต แข็งแรง ฉลาด เนื้อและไก่ที่ให้เด็กควรเลือกส่วนที่ไม่มีไขมัน ถ้าเป็นไก่ควรจะเอาหนังออก เริ่มแรกในการให้อาหารประเภทนี้แก่เด็ก ควรจะใช้วิธีต้ม อบ ตุ๋น แล้วจึงบดหรือสับให้ละเอียด การเริ่มให้อาหารประเภทเนื้อ ควรให้ตอนมื้อเที่ยงโดยเริ่มจาก 2-3 ช้อนชาก่อน โดยผสมกับข้าวบดผักบด

การทำอาหารประเทภเนื้อ สำหรับเด็กเล็กไม่ควรใช้เครื่องเทศ ผงชูรส หรือสารเคมีต่างๆที่ช่วยในการเปื่อย ให้เปื่อยโดยวิธีต้มเคี่ยว แล้วจึงบดหรือสับให้ละเอียด ในการทำแต่ละครั้ง ไม่ควรทำไว้มากเกินที่ป้อนใน 1 วันหรืออย่างมากได้เพียง 2 วัน เมื่อเหลือเก็บส่วนที่เหลือในกล่องปิดฝาให้แน่นใส่ตู้เย็น เมื่อจะใช้จึงอุ่น

การเลือกเนื้อไก่ควรเลือกไก่อ่อน ไก่อ่อนจะมีสีขาวเนื้อจะนุ่ม ถ้าไก่แก่เนื้อจะหยาบ เนื้อควรเลือกเนื้อสันในหรือเนื้อส่วนตะโพก หมูก็ควรใช้หมูที่ไม่ติดมันเลือกใช้แต่หมูเนื้อแดง

ตับ
ตับเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ให้ทั้งอาหาร โปรตีนและธาตุเหล็ก นอกจากนี้ยังให้วิตามินเอ ไรโบเฟลวิน และไนอาซีน ตับที่ใช้ทำอาหารให้เด็กควรจะใช้ตับไก่ ตับหมู เลือกตับที่ไม่ขม ควรทำตับให้เด็ก ทำเช่นเดียวกับเนื้อสัตว์อื่นๆและให้เมื่อเด็กอายุ 3-4 เดือน เช่นเดียวกับเนื้อ

ไข่
เด็กอายุประมาณ 3-4 เดือน ควรจะเริ่มให้ไข่แดงลวกยางมะตูม โดยเริ่ม 1 ช้อนชาก่อนแล้วจึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนถึง 1 ฟองไข่แดง ส่วนใหญ่จะเริ่มให้ไข่ทั้งฟองเมื่อเด็กอายุ 10 เดือนขึ้นไป โดยให้ไข่ต้มยางมะตูมยีผสมกับข้าวต้มเปื่อย ถ้าเด็กกินแล้วไม่เกิดอาการผื่นคัน อาเจียน ก็ควรจะให้ต่อไปอย่างน้อยเด็กอายุระหว่าง 10 เดือน ถึง 2 ขวบ ควรจะให้กินไข่อาทิตย์ละ 5 ฟอง

ปลา
ควรให้เด็กกินปลาเมื่ออายุ 10 เดือน ตามปกติเด็กจะชอบปลา เพราะเนื้อปลาส่วนใหญ่จะนุ่ม รสหวาน ไม่ต้องเคี้ยวมาก ปลาให้สารอาหารประเภทโปรตีนและให้ธาตุฟอสฟอรัส แคลเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ทำให้ฟันและกระดูกแข็งแรงเจริญเติบโต เพราะแร่ธาตุทั้งสองชนิดนี้จะทำงานร่วมกัน หน้าที่สำคัญที่สุดก็คือเป็นส่วนประกอบของกระดูกและฟัน ในวัยเด็กเป็นวัยที่ต้องการแร่ธาตุนี้มากที่สุด ปลาที่ใช้ทำอาหารให้เด็กควรเลือกปลาที่มีเนื้อมาก ไม่มีไขมัน สด ใหม่ เช่น ปลานิล ปลาสำลี ปลาตาเดียว ปลากะพง เป็นต้น การทำอาหารปลาสำหรับเด็ก ใช้วิธี นึ่ง อบ ต้ม ย่างหรือทอดก็ได้ แต่ต้องเอาก้างออกให้หมดโดยใช้นิ้วมือบี้ การใช้มือบี้จะช่วยให้ปลอดภัยและแน่ใจว่าไม่มีก้างติด

ผลไม้สด
เด็กอายุ 3 เดือน ควรจะเริ่มให้กินกล้วยสุกครูดเอาแต่เนื้อกล้วยแล้วจึงบด เริ่ม 1 ช้อนชา แล้วจึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ควรจะให้ในช่วง 10 โมง หรือบ่าย นอกจากกล้วยผลไม้สุกอื่นๆเช่นมะละกอสุก ฝรั่งสุก มะม่วงสุก ถ้าต้มเปื่อยหรือตุ๋นแล้วบดหรือยีให้เด็กก็ได้ เปลี่ยนจากกล้วยเป็นมะละกอตุ๋น ฝรั่งสุกตุ๋น แล้วบด

เด็กอายุ 8 เดือน ควรจะได้เริ่มกินผลไม้สด เลือกผลไม้ที่มีรสหวาน หัดให้เด็กหยิบใส่ปากเอง ใช้ผลไม้สุกหั่นเป็นชิ้นเล็กๆพอคำ ผลไม้ที่ใช้ได้ เช่น มะละกอสุก ฝรั่งสุก แตงไทย องุ่น ลอกเปลือกออกเอาเมล็ดออกไม่ต้องกังวลว่าเด็กจะทำเลอะเทอะ เมื่อป้อนเสร็จจึงค่อยทำความสะอาด

น้ำผลไม้
น้ำผลไม้จะให้เมื่อเด็กอายุ 4 เดือน ควรจะให้น้ำผลไม้ที่คั้นจากผลไม้สด ถ้าจะใช้น้ำผลไม้กระป๋องหรือขวด จะต้องเลือกชนิดที่เป็นของเด็ก ซึ่งจะมีสลากบอกข้างขวดหรือกระป๋องว่าใช้สำหรับเด็กได้ เราต้องการให้เด็กได้วิตามินซี จึงให้น้ำผลไม้แก่เด็ก น้ำผลไม้ที่ให้เด็กอายุ 4 เดือน ควรจะใส่ขวดให้ดูด ให้ 1 ออนซ์แล้วจึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนถึง 3-4 ออนซ์ น้ำส้มคั้นใช้ส้มเกลี้ยง ส้มเขียวหวาน ส้มเช้ง ล้างเปลือกเช็ดให้แห้งแล้วจึงผ่า มือและเล็บผู้คั้นควรจะสะอาด เมื่อให้ครั้งแรกควรจะให้ครึ่งผลก่อน ครั้งแล้วกรองผสมน้ำสุก ใช้น้ำส้ม 2 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 2 ช้อนโต๊ะ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเด็กอายุ 5 เดือนเพิ่มเป็น 3-4 ออนซ์ โดยไม่ต้องผสมน้ำและกรอง

เมื่อเด็กอายุ 5 เดือนขึ้นไป ควรจะเริ่มหัดให้เด็กได้ดื่มน้ำผลไม้จากแก้ว เด็กต้องการวิตามินซีวันละ 4 มิลลิกรัม แต่ต้องการทุกๆวัน น้ำส้ม 3 ออนซ์ ให้วิตามินซีถึง 50 มิลลิกรัม

เครื่องดื่ม
เมื่อเด็กอายุ 1 ขวบ เขาควรจะได้ดื่มเครื่องดื่มเป็นของว่างแทนน้ำผลไม้ หรือนมบ้างในบางมื้อ เป็นการฝึกนิสัยในการกินที่ดีให้กับเด็ก เด็กจะได้เป็นคนไม่เลือกอาหาร เครื่องดื่มที่เราควรจะให้เด็กเราต้องคำนึงถึงสารอาหารที่เด็กจะได้รับ เพราะเมื่อเด็กดื่มแล้วอาจจะอิ่ม ทำให้กินอาหารได้น้อยลง เครื่องดื่มสำหรับเด็กจึงควรให้สารอาหารโปรตีนด้วย เลือกเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของนมหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมอยู่ในส่วนผสมของเครื่องดื่มนั้นๆ และควรทำเองดีกว่าที่จะซื้อชนิดบรรจุกระป๋องหรือขวด เพราะอาจจะหวานมากไปสำหรับเด็กและเครื่องดื่มบรรจุกระป๋องหรือขวดมักใส่ยากันบูดไม่เหมาะให้เด็กดื่ม ส่วนผสมของเครื่องดื่มควรเลือกผลไม้สดใหม่ และมีในฤดูกาล ไม่หวานจัด เช่นผลไม้ปั่น กล้วยผสมนม น้ำส้มกับไอศกรีม

อาหารบริหารฟัน
เด็กเมื่อฟันขึ้น ควรให้ขนมประเภทที่ออกแรงขบเคี้ยวให้เด็กถือหรือป้อนเอง แต่ขนมควรจะเป็นชนิดที่ละลายได้ในปาก เคี้ยวขาดง่ายสำหรับวัยของเขา เช่น บิสกิต ขนมปังแท่ง คุกกี้ ขนมผิง ทองม้วน ครั้งแรกบิเป็นชิ้นเล็กๆวางไว้ในจานให้เขาหยิบเอง แล้วจึงให้เป็นชิ้นเมื่อเขาชินและเข้าใจถึงวิธีการป้อนขนมด้วยตนเอง เมื่อเริ่มให้ถ้าให้ชิ้นใหญ่เดี๋ยวเด็กอาจจะใส่ปากทั้งอันอาจสำลักแล้วเข็ดไม่กล้ากินอีกต่อไป

เด็กอายุ 1 ขวบขึ้นไป ควรจะได้เปลี่ยนนมเป็นนมแบบผู้ใหญ่ดื่ม และควรจะได้กินอาหาร 3 มื้อ นมเป็นเพียงอาหารเสริมระหว่างมื้อ เมื่อเด็กอายุครบ 1 ขวบ ต้องพยายามให้เด็กกินอาหาร 3 มื้อให้ได้ เพื่อที่จะให้เด็กได้สารอาหารเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เปลี่ยนลักษณะของอาหารให้เหมาะกับความเจริญเติบโตของเด็ก

Wednesday, June 24, 2009

น้ำตำลึง



ไม่น่าเชื่อใช่ไหม ว่าตำลึงก็นำมาเป็นเครื่องดื่มได้ อร่อยด้วย มีประโยชน์ หาง่าย ส่วนใหญ่ขึ้นตามรั้ว ไม่มียาฆ่าแมลง
ส่วนผสม
• ใบตำลึง 20 กรัม (หั่น 10 ช้อนคาว)
• น้ำเชื่อม 30 กรัม (2 ช้อนคาว)
(ใช้สารให้ความหวานหรือน้ำตาลเทียมแทนได้)
• น้ำมะนาว 10 กรัม (2 ช้อนชา)
• เกลือป่น เสริมไอโอดีน 1 กรัม (1/5 ช้อนชา)
• น้ำเปล่าสะอาด 200 กรัม (14 ช้อนคาว ประมาณ 1 แก้ว)

วิธีทำ
ล้างใบตำลึงให้สะอาด ใส่เครื่องปั่น เติมน้ำเปล่าครึ่งหนึ่ง ปั่นให้ละเอียด (ถ้าไม่มีเครื่องปั่น ก็ใช้ครกตำให้ละเอียดก็ได้ แต่ต้องล้างครกและสากให้สะอาดไม่มีกลิ่นก่อน) แล้วนำไปกรอง ใส่น้ำที่เหลือลงกากที่เหลือ คั้นต่อเอาแต่น้ำ นำน้ำที่ได้ไปใส่เกลือ น้ำมะนาว น้ำเชื่อม ชิมรสตามชอบ ถ้าต้องการเติมน้ำแข็ง เวลาทำให้ลดน้ำเปล่าลงครึ่งหนึ่ง เพื่อให้เข้มข้น เวลาใส่น้ำแข็งจะได้ไม่จืด ควรรีบดื่มเพื่อให้ได้คุณค่า
ประโยชน์ที่ได้รับ
คุณค่าทางอาหาร มีวิตามิน เอ สูง ช่วยบำรุงสายตา มีแคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส บำรุงกระดูก และวิตามินซี ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
คุณค่าทางยา
• นำใบมาตำให้ละเอียด พอกแก้อาการแพ้ แมลงกัดต่อย
• นำมารับประทานช่วยป้องกันโรโลหิตจาง โรคมะเร็ง และหัวใจขาดเลือด

น้ำมะเฟือง



โบราณว่า ถ้าไม่ได้ทานมะเฟือง แค่ไปลอดต้นมะเฟือง ก็ไม่เป็นนิ่วแล้ว เพรามะเฟืองทำให้ปัสสาวะสะดวก ขับปัสสาวะ ทำให้โอกาสการเป็นนิ้วลดลง มะเฟือง ผลไม้ที่ผ่าแล้วมีรูปร่าง 5 แฉก แบบดวงดาว อร่อยชื่นใจ
ส่วนผสม
• มะเฟืองหั่น 40 กรัม (4 ช้อนคาว)
• น้ำเชื่อม 30 กรัม (2 ช้อนคาว)
• เกลือป่น เสริมไอโอดี 1 กรัม (1/5 ช้อนชา)
• น้ำเปล่าสะอาด 200 กรัม (14 ช้อนคาว)


วิธีทำ
ล้างมะเฟืองที่แก่จัด ให้สะอาด หั่น แกะเมล็ดออก แล้วนำใส่เครื่องปั่น เติมน้ำเปล่าสะอาด แล้วปั่นให้ละเอียด จะได้น้ำมะเฟือง สีเหลืองอมเขียวอ่อนๆ ติมน้ำเชื่อม เกลือ ชิมรสตามชอบ ดื่มแล้วชื่นใจ
เ ถ้าต้องการเก็บไว้ดื่มนานๆ ไว้ดื่ม ตั้งไฟให้เดือด 3-5 นาที (แต่วิตามินบางอย่าง เช่นวิตามินซี จะหายไป) แล้กรอกใส่ขวด นึ่ง 30-30 นาที นำออกมาทิ้งไว้ให้เย็น เย็นแล้วนำแช่ไว้ในตู้เย็นเก็บ
ประโยชน์ที่ได้รับ
คุณค่าทางอาหาร น้ำมะเฟืองมีกลิ่นหอม ประกอบด้วยคุณค่าของวิตามิน เอ ช่วยบำรุงสายตา และวิตามินซี ช่วยชลอความแก่ ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ป้องกันอนุมูลอิสระ (ต่อต้านสารก่อมะเร็ง) มีฟอสฟอรัส และแคลเซียมเล็กน้อย
คุณค่าทางยา ช่วยขับเสมหะ ป้องกันโลหิตจาง ขับปัสสาวะ ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน

น้ำบล็อคโคลี่ ผักกาดขาว และเซอเลอรี่

หากคุณรู้สึกจะเป็นหวัดหรือภูมิคุ้มกันอ่อนลง ควรดื่มน้ำผักสีเขียวที่อุดมไปด้วยวิตามินซีและแคลเซียมถ้วยนี้
นับแต่เริ่มแรกอาการไม่สบาย

ส่วนผสม
ผักกาดขาว 100 กรัม
เซเลอรี่ 100 กรัม (เกลาส่วนแข็งๆ ของก้านออก)
บล็อคโคลี่ 150 กรัม

วิธีทำ
แกะผักกาดออกเป็นใบๆ หั่นเซเลอรี่เป็นท่อน คั้นเซเลอรี่ ผักกาดและบล็อคโคลี่รวมกัน เสิร์ฟพร้อมน้ำแข็ง หรือจะนำน้ำที่ได้ไปปั่นกับน้ำแข็ง ก็จะได้เครื่องดื่มรสเนียนนุ่มขึ้น

Monday, June 22, 2009

สมูทตี้แตงกวา เลมอนและสะระแหน่



เครื่องดื่มรสอ่อนๆ ที่ให้ความสดชื่นแก้วนี้ดีอย่างยิ่งต่อสุขภาพไต เพราะช่วยกระตุ้นการขจัดสารพิษ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญหากคุณกำลังลดน้ำหนักโดยการรับประทานอาหารโปรตีนสูง

เครื่องปรุง

แตกกวา 250 กรัม (ปอกเปลือกล้างให้สะอาด)
เลมอน 1/2 ผล
ใบสะระแหน่ 3-4 ใบ
น้ำแข็งก้อน 2-3 ก้อน

วิธีทำ

หั่นแตกกวาเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า คั้นน้ำเลมอน นำส่วนผสมทั้ง 2 อย่างไปปั่นกับใบสะระแหน่และน้ำแข็งทำเป็นสมูทตีเย็นจัด ตกแต่ด้วยใบสะระแหน่ตามชอบ

ชาตะไคร้สะระแหน่


เครื่องปรุง
น้ำ 4 ถ้วย
ตะไคร้ซอยชนิดแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ
ยอดสะระแหน่ 5 ยอด
ยอดสะระแหน่สำหรับตกแต่ง

วิธีทำ

1. ต้มน้ำในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือดจัด ปิดไฟ ใส่ตะไคร้กับยอดสะระแหน่ แช่ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง เทใส่เหยือก เตรียมไว้
2. รินใส่แก้ว ตกแต่งด้วยยอดสะระแหน่ เสิร์ฟ

สรรพคุณ : แก้ปวดกระดูก , ปวดหลัง , ปวดแข้งปวดขา , ป้องกันโรคกระดูกผุ , นั่งดูหนังสือแล้วตาลาย ลุกขึ้นแล้วหน้ามืด , ป้องกันโรคไต , เบาหวาน , คอเรสเตอรอล

ขอบคุณภาพประกอบจาก bkkmenu.com

Saturday, June 20, 2009

น้ำ lti-Vit C


เครื่องปรุง
เนื้อมะขามป้อม 1/2 ถ้วย
มะระจีนหั่นชิ้นแช่เย็น 1/4 ถ้วย
น้ำแข็งบดละเอียด 1 ถ้วย
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
ใบสะระแหน่ 1/4 ถ้วย
น้ำเชื่อม 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
- คั้นมะขามป้อมด้วยเครื่องแยกกากแยกน้ำ ใส่แก้ว พักไว้
- ปั่นส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด
- รินใส่แก้ว ตกแต่งด้วยยอดสะระแหน่เสิร์ฟ

Friday, June 19, 2009

น้ำมะเขือเทศ - แอปเปิ้ล


ส่วนผสม
มะเขือเทศ 4-5 ผล
แอปเปิ้ล 1 ผล
เกลือนิดหน่อย
น้ำแข็ง
วิธีทำ
- คั้นแอปเปิ้ลเอาน้ำออกมาก่อน เทน้ำแอปเปิ้ลใส่ลงไปในเบลนเดอร์ ใส่มะเขือเทศลงไปปั่นแล้วกรองเอากากออก เติมเกลือลงไปนิดหน่อย เวลาเสิร์ฟเติมน้ำแข็งลงไปด้วย

หมายเหตุ : มะเขือเทศมีสารตัวหนึ่งชื่อไลโคปีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้ผิวสวย เหมาะสำหรับการดื่มในหน้าร้อนอย่างยิ่ง เพราะไลโคปีนจะเข้าไปปกป้องเราจากแสงอัลตร้าไวโอเล็ตที่แรงกล้าในหน้าร้อน ไลโคปีนยังสามารถใช้ต้านมะเร็งได้หลายชนิด เมนูนี้เมื่อทำให้หวานขึ้นเล็กน้อยด้วยแอปเปิ้ลจะกินง่ายขึ้น

Thursday, June 18, 2009

รวิยาคู


โอ้โฮ ชื่อเพราะจัง อะไรเอ่ย "รวิ" หมายถึงพระอาทิตย์ไงคะ มีแสงสีแดงสีเหลือง สลับกันสวยงามเวลาพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก ดูแล้วสบายใจจริงๆ ส่วน "ยาคู" นั้น ตามคำศัพท์ที่แท้จริง คือขนมที่ทำจากข้าวอ่อน แต่เรามาดัดแปลงโดยใช้เกล็ดธัญพืช คลุกเคล้ากับน้ำผึ้งให้มีรสชาติ ไม่จืดชืด เมื่อรับประทานพร้อมเกล็ดแตงโมสีสวยหวาน เวลาทำก็แสน..ง่าย เวลารับประทานก็แสน...อร่อย เย็นชื่นใจ หายเหนื่อยหลังกลับจากทำงานดีนักแล เตรียมไว้ต้อนรับเพื่อนๆ ก็ยิ่งดีใหญ่ มีเคล็ดลับอยู่อย่างหนึ่ง ก่อนยกมาเสิร์ฟก็ประกาศชื่อเมนูเสียก่อน คนฟังก็จะตาโตรอคอยเลยล่ะ พอเห็นแล้วก็ต้องร้อง อู้ฮู้..กันเป็นแถว คุณก็มีหน้าที่แจกแจงวิธีการง่ายๆ ถ่ายทอดกันไป สนุกดีนะคะ
เครื่องปรุง
- แตงโมเนื้อแดง 1 ลูก
- แตงโมเนื้อเหลือง 1 ลูก
- เกล็ดธัญพืช 1 ถ้วยเล็ก
- น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ผ่าแตงโมแบ่งครึ่ง ใช้ช้อนตักเนื้อแตงโมใส่กระชอน แล้วใช้สากบดเนื้อแตงโมให้น้ำไหลลงถ้วยที่รองอยู่ด้านล่าง ทำอย่างนี้ทั้งแตงโมแดงและเหลือง แยกสีน้ำแตงโมไว้
2. นำน้ำแตงโมที่คั้นไว้แล้วเข้าช่องแช่แข็ง ทิ้งไว้อย่างน้อย 6 ชั่วโมง หรือทั้งคืนก็ได้ เพื่อให้เป็นน้ำแข็ง
3. เทเกล็ดธัญพืชลงกระทะ ความร้อนที่ไฟอ่อน เทน้ำผึ้งลงไปคลุกเคล้าให้ทั่ว ตักขึ้นพักไว้ให้เย็น แล้วค่อยใช้ช้อนกดให้เกล็ดแตกกระจาย ไม่จับกันเป็นก้อน

Wednesday, June 17, 2009

ราสเบอร์รี่ฟรีซ..ราสเบอร์รี่ปั่น


ส่วนประกอบ
- น้ำต้มสุก1/2 ลิตร
- ราสเบอร์รี่กวน 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเชื่อม 1/4 ถ้วย
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำแดง 1 ถ้วย

วิธีทำ
- นำราสเบอร์รี่ น้ำต้มสุก น้ำเชื่อม น้ำมะนาว น้ำแดง ปั่นจนส่วนผสมเข้ากัน
- เติมน้ำแข็งบด 4 ถ้วยตวง
- ปั่นต่อจนน้ำผลไม้และน้ำแข็งเข้ากันคล้ายหวานเย็น พร้อมเสิร์ฟ
ขอขอบคุณ ภาพจาก horapa.com ด้วยครับ

Tuesday, June 16, 2009

น้ำลองกอง


ส่วนผสม
เนื้อลองกอง 1 ถ้วย
น้ำสะอาด 1 1/2 ถ้วย
น้ำเชื่อม 1/2 ถ้วย
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
แกะเนื้อลองกอง ใส่เครื่องปั่น เติมน้ำแล้ว ปั่นต่อ เสร็จแล้วเติมน้ำเชื่อม ใส่เกลือป่น ชิมรสตามใจชอบ จะได้น้ำลองกอง รสหวาน หอม เปรี้ยว เค็ม เล็กน้อย ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น

Monday, June 15, 2009

ชาลำใย


ส่วนผสม
ชาดำ 1 ช้อนโต๊ะ
ลำใยแห้ง 3 ถ้วยตวง
น้ำสะอาด 700 ซีซี
มะนาว 1 ลูก
วิธีทำ
- เอาน้ำใส่กาใส่ลำใยแห้งลงไป ตั้งไฟให้เดือด เคี่ยวนานประมาณ 10 นาที แล้วยกลงกรองเอาเนื้อลำใยออก
- เอาชาดำใส่ถุงแช่ไว้นาน 3 นาที แล้วยกถุงชาออก บีบมะนาวลงไป
หมายเหตุ : ขนาดชามะนาวก็ไม่ต้องใช้น้ำตาลทรายเลย ...ก๊อ...ไหนว่าลำใยถูกแล้วน้ำตาลแพง ก็ใช้ความหวานจากเนื้อลำใยมาต้มเอาน้ำหวานซิ ชามะนาวของคุณจะหอมหวานกว่าเดิม ถ้าสูตรที่ให้ยังไม่หวานถูกใจก็เพิ่มลำใยลงไปได้อีก เป็นการช่วยชาวสวนลำใยไปในตัว

Sunday, June 14, 2009

น้ำลูกพรุน


ส่วนผสม
ลูกพรุน 1 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 8 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง
เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- ลูกพรุนแกะเมล็ดออก ผสมน้ำนำไปต้มให้เปื่อย
- เอาเนื้อลูกพรุนยีให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำ
- ผสมเกลือ น้ำตาลทราย คนให้ละลาย ตั้งไฟให้เดือดอีกครั้ง
- เสิร์ฟเย็นคู่กับน้ำแข็งทุบ
หมายเหตุ : สรรพคุณ : เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยในการระบาย

Saturday, June 13, 2009

ซอร์เบต์สละฉบับโฮมเมด



ซอร์เบต์ หรือ Sorbet เป็นไอศครีมผลไม้ชนิดหนึ่ง ที่หน้าตาละม้ายคล้ายเชอร์เบทราวกับฝาแฝด จนหลายคนเข้าใจว่าเป็นชนิดเดียวกัน แต่จริงๆ ต่างกันนิดเดียวตรงที่ซอร์เบต์ไม่มีส่วนผสมของนมแม้สักนิดและมีเนื้อหยาบและหนักกว่า ในขณะที่เชอร์เบทจะใส่นมเล็กน้อย
สำหรับวิธีทำซอร์เบต์นั้นอย่าได้กังวลว่า ต้องพึ่งพาแต่เครื่องทำไอศครีมให้ยุ่งยาก ขอแค่มีเครื่องปั่นน้ำผลไม้ทั่วๆ ไปก็พอ และซอร์เบต์ที่ได้ก็เนื้อปุกปุยและอร่อยน่ากินไม่แพ้กันเสียด้วยสิ

ซอร์เบต์สละ (6 ที่) เวลาเตรียม 30 นาที เวลาปรุง 1 วัน
ส่วนผสม

เนื้อสละ(ปอกเปลือกและเลาะเม็ดแล้ว) 1 1/2 ถ้วย
น้ำแอ๊ปเปิ้ล 2 ถ้วย
น้ำเชื่อม 1 ถ้วย
น้ำมะนาว 1/3 ถ้วย
ไวน์ขาว 1/2 ถ้วย
ผงเจลาติน 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
ผสมเนื้อสละ น้ำแอ๊ปเปิ้ล น้ำเชื่อม และผงเจลาตินใส่หม้อ คนให้เข้ากันพักไว้สักครู่ให้ผงเจลาตินดูดน้ำ จากนั้นยกหม้อขึ้นตั้งไฟคนให้ผงเจลาตินละลายหมด พักไว้ให้เย็น
เติมน้ำมะนาวและไวน์ขาว ชิมรสตามชอบ นำส่วนผสมไปแช่เย็นในช่องแช่แข็งนาน 3 ชั่วโมง เมื่อครบเวลาให้เทส่วนผสมใส่โถสำหรับปั่นน้ำผลไม้ ปั่นให้เป็นเกล็ดน้ำแข็งเล็กๆ แล้วนำกลับไปแช่เย็นอีกประมาณ 2 ชั่วโมง
นำส่วนผสมออกมาปั่นทุกๆ 2 ชั่วโมงอีก 2 รอบ เมื่อได้เนื้อเป็นเกล็ดละเอียดดีแล้ว ให้แช่ซอร์เบ้ไว้อีก 1 คืน ก่อนนำมาเสิร์ฟ

H&C Tips
สละที่ซื้อมาแต่ละครั้งรสชาติจะไม่เท่ากัน จึงต้องชิมรสให้ชอบก่อนนำไปแช่แข็ง และควรมีรสเข้มมากหน่อยเพราะเมื่อซอร์เบต์แข็งรสชาติจะอ่อนลงเล็กน้อย
การปั่นซอร์เบต์ที่แข็งแล้วจะทำให้เกล็ดน้ำแข็งมีขนาดเล็กลง ดังนั้น

Friday, June 12, 2009

น้ำมะนาวใบสะระแหน่ปั่น


ส่วนผสม
ใบสะระแหน่ 1/2 ถ้วย
น้ำเชื่อม 1/3 ถ้วย
น้ำมะนาว 1/4 ถ้วย
น้ำแข็ง 1 1/2 ถ้วย
เกลือเล็กน้อย
วิธีทำ
ปั่นน้ำมะนาว น้ำเชื่อมและน้ำแข็งรวมกันจนเกือบละเอียด แล้วใส่ใบสะระแหน่ เกลือปั่นรวมกันจนละเอียดอีกครั้ง

Thursday, June 11, 2009

ฝรั่งปั่นผสมน้ำส้ม


เครื่องปรุง - ฝรั่งสุกหั่นเอาแต่เนื้อ 1/2 ถ้วย
- น้ำส้มคั้นสด ๆ 1/2 ถ้วย
- น้ำตาล 2 ช้อนชา
- เกลือ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ
ปั่นฝรั่งให้ละเอียด ใส่น้ำตาล เกลือ ปั่นเข้าด้วยกัน ใส่น้ำส้มคั้นปั่นเข้าด้วยกัน เทออกใส่แก้วแช่เย็นในตู้เย็น ธรรมดาใช้เป็นอาหารว่างกินกับกล้วยปิ้ง

อาหารที่ช่วยแก้ท้องผูก
ผู้สูงอายุมักมีปัญหาเรื่องท้องผูกเป็นประจำ ต้องกินอาหารที่มีเส้นใย อาหารที่ช่วยระบายได้คือ ผักและ ผลไม้คุณยายคงมีปัญหาที่จะกินผักสด ผลไม้สดไม่สะดวก จึงเสนอแนะผลไม้ปั่นให้คุณยายดื่มเป็นอาหารว่างระหว่างมื้อ

Sunday, May 31, 2009

โยเกิร์ตแอปเปิ้ลปั่น


ส่วนผสม
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
แอปเปิ้ลเขียวหรือแดงตามชอบ 1/2- 1 ลูก
น้ำผึ้ง (ไม่ใส่ก็ได้) 1 ช้อนโต๊ะ
เม็ดทานตะวันสำหรับโรยหน้า
ผลไม้สด เช่น ส้ม องุ่น มะละกอ หรือผลไม้แห้งแล้วแต่ชอบ

วิธีทำ
ปอกเปลือกแอปเปิ้ล หั่นเป็นชิ้นเล็ก ใส่เครื่องปั่นพร้อมโยเกิร์ตและน้ำผึ้ง ปั่นจนละเอียดเทใส่ชาม ใส่ผลไม้สดหรือแห้งตามชอบ
H&C Tips
แอปเปิ้ลในปัจจุบันมักจะเคลือบแว๊กซ์หรือขี้ผึ้งไว้ เพื่อไม่ให้เหี่ยวง่าย วิธีสังเกตลองใช้มีดขูดเปลือกเบา ๆ จะเห็นขี้ผึ้งจับอยู่ที่ปลายมีด เพราะฉะนั้นก่อนรับประทานควรปอกเปลือกออกจะปลอดภัยที่สุด

Saturday, May 30, 2009

อะเมทีสต์พั้นช์


ส่วนผสม
ดอกอัญชัน 20 ดอก
น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
น้ำแอปเปิ้ลแบบกล่อง 1 1/2 ถ้วย
น้ำเลมอน 1 ลูก
น้ำเชื่อม (เข้มข้น 1:1) 1/3 ถ้วย
เหล้าโกลด์เตกีล่า 1/4 ถ้วย
วิธีทำ
1. ต้มน้ำเปล่าจนเดือด นำดอกอัญชันที่ล้างสะอาดลงต้มประมาณ 5 นาที กรองเอาแต่น้ำแล้วพักไว้ให้เย็น
2. ผสมน้ำสีดอกอัญชัน น้ำแอ๊ปเปิ้ล น้ำเลมอน น้ำเชื่อมและเหล้าเตกีล่าเข้าด้วยกัน รินใส่แก้วน้ำแข็ง ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่และเลมอนหั่นบาง
H&C Tips - เหล้าโกลด์เตกีล่า เป็นเหล้าเตกีล่าชนิดที่ไม่ผ่านการบ่ม กลั่นได้จากต้นอะเกฟ (Agave) โกลด์เตกีล่ามีความพิเศษเพราะมีกลิ่นของคาราเมลและไม้ผสมอยู่ด้วย จัดเป็นเหล้าประเภท Spirit ทีมีสรรพคุณช่วยย่อยอาหารได้ด้วย

Friday, May 29, 2009

แลสซี่สับปะรด


ส่วนผสม
เนื้อสับปะรดแช่แข็ง 1 ถ้วย
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
น้ำผึ้งสำหรับแต่งหน้า

วิธีทำ
นำสับปะรดไปแช่เย็นจนแข็ง นำไปปั่นรวมกับโยเกิร์ตจนละเอียดเข้ากัน ก่อนเสิร์ฟราดหน้าด้วยน้ำผึ้ง
H&C Tips Lassi เป็นเครื่องดื่มที่ทำจากโยเกิร์ต มีต้นกำเนิดในแถบเอเชียใต้หรือเป็นเครื่องดื่มของคนอินเดีย ใส่ผลไม้ต่างๆให้มีรสหวาน
หรือเค็มก็ได้ และอาจจะใส่เครื่องเทศพื้นบ้านลงไปด้วยเล็กน้อยก็ได้ถ้าชอบ

Thursday, May 28, 2009

Cereal Fruit Yogurt Smoothies


ส่วนผสม
นมเปรี้ยวพาสเจอร์ไรส์รสผลไม้รวมตราเนสท์เล่ 1/4 ถ้วยตวง (60 กรัม)
โยเกิร์ตผสมทรอปิคอลฟรุตตราเนสท์เล่ 1 ถ้วย (140 กรัม)
นมข้นหวานตราหมี 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)
น้ำแข็งบดละเอียด 1 ถ้วยตวง (250 กรัม)
เนสวิต้ารสดั้งเดิม 1 ซอง (30 กรัม)

วิธีทำ
ใส่นมเปรี้ยวพาสเจอร์ไรส์รสผลไม้รวมตราเนสท์เล่ โยเกิร์ตผสมทรอปิคอลฟรุตตราเนสท์เล่ และนมข้นหวานตราหมี ลงโถปั่น ตามด้วย น้ำแข็งบด
ปั่นพอเป็นเกล็ดละเอียด แล้วใส่ เนสวิต้ารสดั่งเดิม ลงไปปั่นพอเข้ากันเทใส่แก้วพร้อมดื่มขณะเย็น

Wednesday, May 27, 2009

นิวเทรนมะเขือเทศเชค

ส่วนผสมสำหรับ 1 ที่
มะเขือหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 3/4 ถ้วยตวง 130 กรัม
น้ำแข็งบดละเอียด 1 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
น้ำตาลเทียม 1/2 ซอง 0.5 กรัม
นิวเทรนบาลานซ์ 3 ช้อนตวงนิวเทรน

วิธีทำนำมะเขือเทศ นิวเทรนบาลานซ์ เกลือป่น น้ำตาลเทียม น้ำเปล่า น้ำแข็งบดใส่ลงในโถปั่น ปั่นพอเป็นเกล็ดละเอียด เทใส่แก้วพร้อมดื่มขณะเย็น
ชวนให้รู้
เมนูนี้ให้สารอาหารครบถ้วน พร้อมวิตามินเอและไลโคปีนจากมะเขือเทศ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ โดยไม่เพิ่มน้ำตาลในเลือด

Tuesday, May 26, 2009

นิวเทรนมะละกอปั่น

ส่วนผสม สำหรับ 1 ที
มะละกอสุก 3/4 ถ้วยตวง 100กรัม
น้ำแข็งบด 1 ถ้วยตวง
นิวเทรนบาลานซ์ 3 ช้อนตวง นิวเทรน
น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
วิธีทำนำมะละกอสุก ใส่ลงในโถปั่น ตามด้วยนิวเทรนบาลานซ์ น้ำเปล่าและน้ำแข็ง ปั่นพอเป็นเกล็ดละเอียดเทใส่แก้วพร้อมดื่มแบบเย็นๆชวนให้รู้เมนูนี้ให้สารอาหารครบถ้วน โดยไม่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด และมีเบต้าแคโรทีนจากมะละกอสุก ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระอันเป็นสาเหตุของความเสื่อมต่าง ๆ ของร่างกาย

นิวเทรนแก้วมังกร


ส่วนผสม สำหรับ 1 ที่
แก้วมังกร 1/2 ถ้วยตวง (75กรัม)
กีวี 1/2 ผล
นิวเทรนบาลานซ์ 3 ช้อนตวง นิวเทรน
เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
น้ำแข็งบด 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ
นำแก้วมังกรและกีวีใส่ลงโถปั่น ตามด้วยนิวเทรนบาลานซ์ เกลือป่น น้ำเปล่าและน้ำแข็ง ปั่นส่วนผสมพอเป็นเกล็ดละเอียดเข้ากันแล้ว เทใส่แก้ว พร้อมดื่มขณะเย็น
ชวนให้รู้
คุณค่าทางโภชนาการต่อ 1 ที่
เมนูนี้ให้สารอาหารครบถ้วน ประกอบกับแก้วมังกรและกีวี เป็นผลไม้ที่ไม่หวานจัด จึงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี

Monday, May 25, 2009

Strawberry Blast with Chocolate Crunch


ช็อกโกแลตนั้นจัดเป็นขนมวิเศษ มีทั้งสารคาเฟอีนแฝงอยู่นิดหน่อยพอให้กระปรี้กระเปร่า และมีสารแห่งความสุข "เอ็นดอร์ฟิน" ที่ช่วยให้อารมณ์ดี และล่าสุดพบว่าช็อกโกแลตช่วยต้านมะเร็งได้อีกด้วย วาเลนไทน์นี้ลองทำขนมแสนอร่อยเป็นของขวัญชิ้นพิเศษ จากฝีมือคุณเอง รับรองว่าผู้รับต้องประทับใจแน่นอนค่ะ

ส่วนผสม
นมสด 4 ออนซ์
สตรอเบอร์รี่สด 4 ลูก
น้ำเชื่อมรสสตรอเบอร์รี่ (Torrani) 2 ออนซ์
ช็อกโกแลตชิพ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำแข็งป่น 1 ถ้วย

วิธีทำ
นำส่วนผสมทุกอย่างยกเว้นช็อกโกแลตชิพใส่ในโถปั่น แล้วปั่นให้เนียนละเอียด
ใส่ช็อกโกแลตลงปั่นแค่หยาบๆ
เทใส่แก้วตกแต่งด้วย สตรอเบอร์รี่ชุบช็อกโกแลต หรือช็อกโกแลตชิพให้สวยงาม

Sunday, May 24, 2009

ระกำโซดา


ส่วนผสม
ระกำ(ปอกเปลือกแล้ว) 3-4 ผล
โซดา 1/4 ถ้วย
กรีนาดีนไซรัป(สีแดง) 1/4 ช้อนชา
น้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย(สำหรับต้ม) 1/3 ถ้วย
น้ำสะอาด(สำหรับต้ม) 1 ถ้วย
เกลือ (เล็กน้อย)

วิธีทำ
ผสมน้ำตาลทราย น้ำและเกลือเข้าด้วยกันนำไปตั้งเตาคนจนละลาย ใส่ระกำลงไปต้มไฟอ่อนนานประมาณ 20 นาทีจนน้ำเชื่อมเริ่มเข้าเนื้อ ตักขึ้นพักไว้ให้เย็น เทน้ำเชื่อมที่เหลือกรองใส่ชามพักไว้สำหรับเป็นน้ำเชื่อมระกำ
หั่นเนื้อระกำเป็นชิ้นเล็กยีกับตะแกรงตาละเอียด แยกเนื้อออกให้ได้น้ำระกำแล้วเติมกรีนาดีนไซรัป และน้ำเชื่อมที่เตรียมไว้เล็กน้อย (ถ้าชอบหวาน) เทใส่แก้วน้ำแข็งตามด้วยน้ำโซดาจะเห็นเป็นชั้นแยกตัวสวยงาม

Saturday, May 23, 2009

น้ำฝรั่งมรกต


ฝรั่งเป็นผลไม้ที่ให้วิตามินซี สูงมาก มีให้รับประทานตลอดทั้งปี ราคาถูก และหาได้ทั่วไป ในต่างประเทศนำฝรั่งที่
หั่นชิ้นพอคำมารับประทานเป็นสลัด ฝรั่ง 100 กรัม หรือประมาณ 1/3 ผลขนาดกลาง ให้วิตามินซี 160 มิลลิกรัม
ซึ่งเพียงพอกับความต้องการในแต่ละวัน

เครื่องปรุง
ฝรั่งสด 1 กิโลกรัม
น้ำหวานสีเขียว
รสครีมโซดา 4 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. ล้างฝรั่งทั้งเปลือกให้สะอาด (ถ้าล้างด้วยน้ำยาล้างผักได้จะดีมาก) ผ่าเป็นสี่ส่วนเพื่อเอาเมล็ดและไส้ออก
2. หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ ใส่ในเครื่องคั้นที่แยกกาก จะได้น้ำฝรั่งคั้นสดประมาณ 1 ถ้วยตวง
3. ผสมกับน้ำหวานสีเขียวคนให้เข้ากัน ใส่ในแก้วน้ำแข็งจะได้น้ำฝรั่งมรกตจำนวน 4 แก้ว