Thursday, March 27, 2008

ปาท่องโก๋ - น้ำเต้าหู้งาดำ (สูตร คุณหรีด)


1. เริ่มจากนำแป้งอเนกประสงค์และแป้งตราว่าวอย่างละ 1 ส่วนมาร่อน เพื่อให้แป้งมีความเบา

2. เตรียมหัวเชื้อของปาท่องโก๋ที่ทำให้ปาท่องโก๋ฟูเวลาทอด และต้องปราศจากกลิ่นแอมโมเนียที่เหม็นๆ เวลาเราหยิบปาท่องโก๋เข้าปากกัด ถ้าซื้อตามท้องตลาดจะมีกลิ่นแบบนี้ โดยใช้ยีสต์ 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำครึ่งแก้ว คนให้ยีสต์ละลาย แล้วใส่แป้งตราว่าว 3 กำมือ คลุกให้เข้ากันพอหนืดเท่านั้น ห้ามยุ่งกับแป้งมากนะคะ

3. ตอนนี้เรามาเตรียมน้ำด่างกัน คือ น้ำ 1 ลิตรและเกล็ดสารส้มที่ละเอียดอีก 1 กรัม

4. นำแป้งจากข้อ 1 + 2 + 3 มานวดแบบนวดอโรมา คือ ไม่ต้องนวดแรง (พูดง่ายๆ ว่าไม่ใช้การนวดแบบไทยแผนโบราณ) แล้วพักไว้ 1 ชม. โดยมีผ้าขาวบางปิด เพื่อไม่ให้แป้งแห้ง แต่ให้แป้งพักเพื่อหายใจค่ะ

5. นำแป้งที่พัก 1 ชม. แล้วมาแบ่งเป็นก้อนๆ แล้วนวดอีกเล็กน้อย สับด้วยสันมือ เหมือนแป้งโรตีก่อนนำลงทอด แล้วยืดแป้งออกให้ยาวเพื่อจะทำการตัดเป็นชิ้นแล้วนำมาประกบ กดด้วยตะเกียบ เวลาทอดยืดแล้วลงทอดในน้ำมันใหม่ๆ

ข้อสังเกต น้ำมันห้ามร้อนเกินไป และเวลาทอดต้องมีตะเกียบคู่ชีพประจำ เพื่อพลิกปาท่องโก๋ไปมาทันที ส่วนนอกของคู่จะกรอบและฟู ส่วนที่ติดกันจะไม่กรอบแต่สุกและหนึบ นี่แหละค่ะ ทำให้ปาท่องโก๋อร่อยไม่เหมือนใคร

เรามีปาท่องโก๋แล้วถ้าจะให้ครบสูตรหรีดก็ขอมอบสูตรน้ำเต้าหู้เพื่อสุขภาพมาให้ด้วย คือ น้ำเต้าหู้งาดำ น้ำเต้าหู้มีประโยชน์มากๆ แต่ต้องเป็นถั่วเหลือง 100% นะคะ นำมาล้างน้ำ 3-4 ครั้ง แล้วแช่อย่างน้อย 4 ชม. เพื่อให้ไม่มีกลิ่นถั่วเหลืองและนุ่มง่ายต่อการทำค่ะ กรองถั่วเหลืองออกผสมกับงาดำที่คั่วแล้ว เติมน้ำด้วยสัดส่วน คือ ถั่วเหลือง ?กก.

น้ำ 2 กก. และงาดำ 2 ขีดค่ะ มาปั่นให้ละเอียดแยกกากและน้ำ เราก็นำส่วนน้ำมาต้มให้เดือดด้วยไฟไม่ต้องแรงเกินแต่ไม่ใช่ไฟเบานะคะ พอเดือดก็คนไปเรื่อยๆ ปล่อยให้เดือดอีก 5 นาที มีฟองไม่ต้องตักทิ้งนะคะ แล้วเติมน้ำตาลตามชอบ นำมากรองให้เนียน 2 ครั้ง เพียงแค่นี้ ก็ได้น้ำเต้าหู้งาดำประจำบ้านหรือใส่ขวดส่งขายตามห้างก็ได้นะคะ เพราะตอนนี้น้ำเต้าหู้เป็นที่ต้องการของตลาดได้ราคาอีกด้วยค่ะ

ปาท่องโก๋ สูตร 2 (แบบนุ่ม มีเนื้อ เมื่อเย็นแล้วเนื้อนิ่มไม่เหนียว)


ส่วนผสม

แป้งสาลีตราฮกแดง 1 กิโลกรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 3 1 /2 ถ้วย
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
โซดา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ
แอมโมเนีย (เช้าก่า) 1 /2 ช้อนชา
ผงฟู 2 ช้อนโต๊ะ

ผสมโซดา ผงฟู และแป้ง รวมกันแล้วพักไว้ ละลายน้ำตาล เกลือ แอมโมเนีย ในน้ำ เติมน้ำมันพืช ไข่ไก่ คนให้เข้ากันดี ใส่ส่วนผสมของเหลวลงในส่วนผสมแป้ง นวดให้เข้ากัน พักแป้งไว้ประมาณ 4 - 6 ชั่วโมง นำไปทอด

**ขอบคุณอาจารย์นวรัตน์ เอี่ยมพิทักษ์กิจ เอื้อเฟื้อสูตรและเทคนิคการทำปาท่องโก๋

1. การนวดแป้ง จะไม่นวดนานเกินไป เพียงแค่นวดให้ส่วนผสมเข้ากันดีก็พอ

2. ควรละลาย น้ำตาล แอมโมเนีย และเกลือในส่วนผสมที่เป็นน้ำก่อน แล้วคนให้ละลายจนหมด จึงนำไปผสมในส่วนผสมที่เป็นของแห้ง จะทำให้ส่วนผสมเข้ากันได้เร็ว

3. อัตราส่วนระหว่างแป้งกับน้ำในแต่ละสูตร อาจจะมีการคลาดเคลื่อนบ้างเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับความเก่าใหม่ของแป้ง ถ้าเป็นแป้งเก่าอาจจะต้องเพิ่มน้ำบ้างเล็กน้อย

4. ควรมีการพักแป้งอย่างน้อย 3 - 4 ชั่วโมง ก่อนทอด ถ้าทอดเร็วเกินไป ปาท่องโก๋จะเนื้อแน่น วิธีสังเกตง่าย ๆ คือ สังเกตจากแป้งจะมีฟองอากาศมาก ก็สามารถนำมาทดลองทอดได้

5. ควรใช้น้ำมันปาล์มในการทอด และน้ำมันที่เหลือแต่ละครั้งควรนำมากรอง ด้วยผ้าขาวบางทุกครั้งก่อนที่จะนำมาทอดใหม่ และควรเปลี่ยนน้ำมันที่ใช้ทอดบ่อย ๆ ถ้าน้ำมันเก่ามากจะเกิดสารพิษในน้ำมัน ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

6. ความร้อนที่ใช้ทอดควรใช้ความร้อนปานกลาง ถ้าใช้ไฟแรงเกินไป จะทำให้ผิวของปาท่องโก๋ไม่สวย มีสีไม่สม่ำเสมอ และผิวนอกนิ่มไม่กรอบ

7. การตัดแป้ง ควรแผ่นแป้งให้หนาประมาณ 1 /2 เซนติเมตร หากแป้งหนามากเกินไปจะทำให้แป้งเนื้อแน่น เวลาแตะน้ำติดตรงกลาง ประกบติดกัน ไม่ต้องบีบแป้งแน่น เพราถ้าบีบแป้งแน่นเกินไป จะทำให้ตัวขนมไม่กางออกมาเวลาทอด

8. เวลาทอด เมื่อหย่อนแป้งลงในน้ำมัน พอแป้งลอยขึ้นมา ควรใช้ตะเกียบพลิกกลับไปกลับมา จะทำให้แป้งแห้งฟู และ พองตัวดี ที่สำคัญอย่าใส่ปาท่องโก๋มากเกินไป ในการทอดแต่ละครั้ง

9. เราสามารถตัดยีสต์ที่อยู่ในสูตรออกได้ ถ้าต้องการให้ขนมขึ้นช้าหรือกลัวทอดไม่ทันขาย แต่ต้องใช้เวลาในการหมักให้นานขึ้น และถ้าอยากให้ปาท่องโก๋มีรสชาติดีขึ้น ให้ให้เติมผงชูรสลงไปในสูตร 2 - 3 ช้อนชา

ปาท่องโก๋ สูตร 1 (แบบกรอบนอก นุ่มใน และกลวงเล็กน้อย)


ส่วนผสม

แป้งสาลีตราฮกแดง 1 กิโลกรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
เกลือ 4 ช้อนชา
น้ำ 3 + 3 /4 - 4 ถ้วย
ยีสต์ 1 ช้อนชา
น้ำมันพืช 2 ช้อนชา
น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
แอมโมเนีย (เช้าก่า) 1 ช้อนโต๊ะ
ผงฟู 2 ช้อนโต๊ะ

ผสมยีสต์ ผงฟู และแป้ง รวมกันแล้วพักไว้ ละลายน้ำตาล เกลือ แอมโมเนีย ในน้ำ เติมน้ำมันพืช ไข่ไก่ คนให้เข้ากันดี ใส่ส่วนผสมของเหลวลงในส่วนผสมแป้ง นวดให้เข้ากัน พักแป้งไว้ประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง ตัดแป้งเป็นแท่งยาว ๆ โรยแป้งนวลเพื่อไม่ให้ติดมือ ยืดแป้งออกให้เป็นแผ่นบาง ๆ หนาประมาณ 1 /2 เซนติเมตร ตัดเป็นชิ้นยาว ๆ ใช้ไม้จุ่มน้ำแตะตรงกลาง ประกบแป้งเข้าหากัน นำไปทอดในน้ำมันที่ร้อนจัด

Tuesday, March 25, 2008

เต้าหู้สอดไส้น้ำแดง


เต้าหู้สอดไส้น้ำแดง
ส่วนผสม
ฟองเต้าหู้แผ่น 500 กรัม
หน่อไม้ 300 กรัม
แครอท 300 กรัม
พริกหยวก 300 กรัม
เห็ดหอม 300 กรัม
มันแกว 300 กรัม
น้ำมัน 20 กรัม
ผักกาด 300 กรัม
เกลือ พริกไทยขาว
ซีอิ๋วขาว

ส่วนผสมซอส
น้ำมันหอย 50 กรัม
ซีอิ๊วขาว 50 กรัม
ผงปรุงรส 10 กรัม
ต้นหอม 20 กรัม
เหล้าจีน 50 กรัม

วิธีทำ
1. ตั้งกระทะกับน้ำมันพอร้อน ใส่หน่อไม้ เห็ดหอม แครอท พริกหยวก มันแกว
2. ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และซีอิ๋วขาว แล้วผัดให้เข้ากัน พักไว้
3. นำเครื่องที่ผัดมาม้วนในฟองเต้าหู้แผ่นให้แน่น
4. นำไปนึ่งกับผักกาด พักไว้

วิธีทำซอส
1. ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่ส่วนผสมของซอส แล้วเคี่ยวจนได้ที่

กระเพาะปลาน้ำแดง


กระเพาะปลาน้ำแดง
ส่วนผสม
กระเพาะปลา 1 ถ้วย
เห็ดหอมแช่น้ำจนนิ่มแล้วผ่าครึ่ง 1 ถ้วย
หน่อไม้หั่นชิ้น 1 ถ้วย
ไข่นกกระทา 1 ถ้วย
ปีกกลางไก่ 1 ถ้วย
ซีอิ๊วดำ 1/2 ถ้วย
ซีอิ๊วขาว 1/2 ถ้วย
แป้งมันละลายน้ำ 1 ถ้วย
ผักชีซอย 1 ถ้วย
เกลือป่นเล็กน้อย
น้ำตาลทรายเล็กน้อย

วิธีทำ
1.ตั้งหม้อใส่น้ำใช้ไฟแรงพอน้ำเดือดนำกระเพาะปลาลงต้มให้สุก ใส่เกลือเล็กน้อย เมื่อสุกแล้วนำขึ้นบีบน้ำออกให้หมดแล้วพักไว้
2.ตั้งหม้อน้ำอีกครั้งใช้ไฟกลาง ใส่เห็ดหอม หน่อไม้ กระเพาะปลา ไข่นกกระทาและปีกกลางไก่ ต้มต่อไปจนน้ำเดือด
3.ใส่เครื่องปรุงชิมรสให้ได้ตามชอบ ต้มเคี่ยวจนกระทั่งส่วนผสมทั้งหมดสุกและเข้ากันดี
4.ค่อยๆใส่แป้งมันที่ละลายน้ำแล้วลงไป ค่อยๆคนอย่าให้เป็นก้อน คนต่อจนน้ำเหนียวข้นดีแล้วยกลง
5.ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยผักชีซอย และพริกไทยป่น ทานร้อนๆ

ข้าวห่อสาหร่าย


ข้าวห่อสาหร่ายทอดกรอบ
ส่วนประกอบ
- ข้าวหอมมะลิ 4 ถ้วยตวง
- ข้าวเหนียว 3/4 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 4 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
- น้ำส้มสายชู 6 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
- เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
- สาหร่าย 3 แผ่น
- แผ่นเปาะเปี๊ยะ 6 แผ่น
- ปูอัด 6 แท่ง
- ซุกคินีหั่นแท่งยาว 6 แท่ง
- ชีสแผ่น 6 แผ่น
- น้ำมันพืช 3 ถ้วยตวง
- น้ำสลัด 1/2 ถ้วยตวง
- วาซาบิ 1 ช้อนโต๊ะ
- ผักสลัดตามชอบ

วิธีทำ
- ผสมข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียวเข้าด้วยกัน ซาวน้ำ 1 ครั้ง รินน้ำออกให้หมด
- ผสมข้าวกับน้ำเปล่า นำไปหุงจนสุก
- ทำน้ำปรุงข้าวโดยผสมน้ำตาลทราย น้ำเปล่า น้ำส้มสายชู เกลือป่น เข้าด้วยกัน นำไปตั้งไฟเคี่ยวพอเหนียวเล็กน้อย ยกลงพักไว้ให้เย็น
- ตวงข้าวสุก 3 ถ้วยตวง ใส่ลงในภาชนะผึ่งข้าวพอให้อุ่น ตวงน้ำปรุงข้าวในข้อที่ 3 ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ ใส่ลงในข้าวให้ทั่ว คลุกข้าวกับน้ำปรุงให้เข้ากัน ปิดภาชนะพักไว้ให้ข้าวอิ่มน้ำ
- วางแผ่นเปาะเปี๊ยะลงในภาชนะ วางแผ่นสาหร่ายซ้อนทับ เกลี่ยวข้าวให้กระจายออก หนาบางเท่าๆ กัน โดยให้เหลือพื้นที่ริมขอบประมาณ 1 นิ้ว
- วางแผ่นชีส ปูอัด ซุกคินี ห่อแผ่นเปาะเปี๊ยะโดยการม้วนด้านบนลงมา พับริมทั้ง 2 ข้าง ม้วนทับจนหมดแท่ง ทาริมขอบแผ่นแป้งด้วยแป้งเปียก ม้วนให้กลมแน่น
- ตั้งน้ำมันให้ร้อน ไฟกลาง ใส่ข้าวห่อสาหร่ายทอดพอให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
- จัดเสิร์ฟคู่กับน้ำสลัดผสมวาซาบิ และผักสลัดตามชอบ

ไก่ม้วน


เครื่องปรุง
เนื้อไก่ สันในแล่บาง 500 กรัม
แฮม 7 แผ่น
ชีส 7 แผ่น
ไข่ 2 ฟอง
แป้งสาลี 4 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1/2 ช้อนชา
พริกไทย 1 ช้อนชา
โชยุ 1 ช้อนโต๊ะ
เกล็ดขนมปัง
น้ำมันพืช

วิธีทำ
1. หมักเนื้อไก่กับโชยุ เกลือ พริกไทย ทิ้งไว้ 10 นาที
2. นำเนื้อไก่ที่หมักแล้วมาแผ่เป็นแผ่น วางแฮมและชีสตรงกลางแล้วม้วนเป็นท่อนกลัดด้วยไม้จิ้มฟัน
3. ตอกไข่ ตีให้ไข่แดงและไข่ขาวเข้ากัน นำไก่ที่ม้วนแล้วลงคลุกแป้งสาลีแล้วนำมาชุบไข่ จากนั้นนำไปคลุกกับเกล็ดขนมปัง
4. ตั้งกระทะก้นลึก ใส่น้ำมัน ใช้ไฟปานกลาง รอจนน้ำมันร้อน จากนั้นนำไก่ใส่ลงทอดให้สุกเหลืองทั้ง 2 ข้าง
5. ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน แล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำ จากนั้นจัดลงจานพร้อมผักสลัดตกแต่งให้สวยงาม

Wednesday, March 19, 2008

เปาะเปี้ยะทอด


เปาะเปี๊ยะทอดสูตรนี้ เพิ่มเต้าหู้และบล็อคโคลี เป็นไส้ให้รสชาติต่างจากปอเปี๊ยะทอดทั่วไป เด็กๆสามารถทานได้ และทำให้ทานผักได้ง่ายขึ้น
ส่วนผสม
หมูสันใน 250 กรัม
หอมแดงสับ 6 หัว
กระเทียมสับ 2 กลีบ
บล็อคโคลี 100 กรัม
เต้าหู้ขาวหั่นเป็นก้อนเล็กๆขนาด 5x5 มม. 100 กรัม
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มสายชู 2 ช้อนชา
น้ำตาล 2 ช้อนชา
แผ่นเปาะเปี้ยะ 32 แผ่น
น้ำมันพืช สำหรับทอด

วิธีทำ
1. หั่นเนื้อหมูให้เป็นแท่งยาว ส่วนบล็อคโคลีหั่นแฉลบเป็นชิ้นๆ เตรียมไว้
2. ใส่น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ ตั้งไฟให้ร้อน ผัดหัวหอม กระเทียมและหมูจนสุกดี จึงเริ่มใส่บล็อคโคลี เต้าหู้ขาว น้ำมันหอย ซีอิ๋วขาว น้ำส้มสายชูและน้ำตาล ผัดจนทุกอย่างสุกดี ชิมรสตามชอบ แล้วตักขึ้นพักไว้ให้พออุ่นๆ
3. วางแผ่นเปาะเปี้ยะบนโต๊ะ แล้วตักไส้วางตรงกลางหมุนห่อเก็บปลายให้มิดชิด
4. ตั้งน้ำมันให้ร้อนประมาณ 180 องศาเซลเซียส จึงนำเปาะเปี๊ยะลงทอด นำขึ้นพักไว้ เสิร์ฟขณะอุ่นๆพร้อมน้ำจิ้มบ๊วย หรือน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน

Tuesday, March 18, 2008

ไก่ฮ้อง


ไก่ฮ้อง
ไก่ฮ้องสูตรนี้เป็นเมนูพิเศษสุด เพราะที่จริงแล้วสูตรนี้มาจาก “หมูฮ้อง” หมูฮ้องเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อทางภาคใต้ที่จังหวัดภูเก็ต เจ้าของร้าน คุณพรรณี จีนสีคง เจ้าของร้านข้าวแกงนครศรีฯ ที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ดัดแปลงเมนูจากหมูเป็นไก่ ซึ่งคุณพรรณีนั้นเป็นผู้มีฝีไม้ลายมือในการทำอาหารชนิดที่หาตัวจับยากจึงเปลี่ยนสูตร จนได้เป็น ไก่ฮ้อง สูตรเด็ดมาทำขายที่ร้าน และกลายเป็นเมนูอันดับ 1 ของร้านด้วย ซึ่งมีวิธีทำง่ายๆดังนี้
เครื่องปรุง
- สะโพกไก่ 1 กก.
- รากผักชี 10 ราก
- กระเทียม 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 2 ช้อนชา
- น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม
- พริกไทยดำโขลกให้แตก ไม่ต้องละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ้วแดงอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชูนิดหน่อย
วิธีทำ
เอารากผักชี กระเทียม มาโขลกให้ละเอียด ใส่พริกไทยดำที่โขลกพอแตกๆ ลงไป เอามาคลุกเคล้ากับสะโพกไก่ที่สับเป็นชิ้นๆ ( 1 สะโพกสับได้ 4 ชิ้น )
ใส่ซีอิ้วแดง น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น แล้วหมักไก่ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้เครื่องปรุงซึมเข้าไปในเนื้อไก่ จนเนื้อไก่มีสีเข้มขึ้น
นำเนื้อไก่ที่หมักได้ที่ดีแล้วมา ฮ้อง (เป็นภาษาฮกเกี้ยน หมายถึงการทำให้สุกโดยการอบ) ตั้งกระทะไม่ต้องใส่น้ำมัน พอกระทะร้อนใส่ไก่ลงไป ค่อยๆผัด ต้องใช้ไฟอ่อน ตอนนี้ให้ใส่น้ำส้มสายชูนิดหน่อย ปรุงรสให้ออกหวานเปรี้ยวเค็มนิดๆ ใช้ฝาหม้อปิดไว้ เคี่ยวต่อไปเรื่อยๆคนเป็นระยะๆ ให้คอยสังเกต ดูว่า เนื้อไก่จะงวดลง มีน้ำขลุกขลิก ส่งกลิ่นหอมเป็นอันใช้ได้
เคล็ดลับ
เนื้อไก่นั้นจะต้องสับเป็นชิ้นใหญ่เพราะเวลาเคี่ยวแล้วชิ้นจะเล็กลง ถ้าใช้ไก่บ้านเนื้อจะเหนียวไปนิด ถ้าเป็นไก่เนื้อ เมื่อสุกเนื้อจะนุ่มพอดี
เวลาที่เคี่ยวต้องเอาฝาหม้อปิดไว้เพื่อให้ความร้อนมันระอุ ไก่จะสุกเร็วมีเนื้อนุ่ม และช่วยให้เครื่องปรุง แทรกเข้าเนื้อด้วย
อย่าใช้ไฟแรงเด็ดขาดเพราะจะทำให้เนื้อไก่แข็ง ควรใช้กระเทียมไทยเพราะจะหอมกว่า
ขอขอบคุณ
คุณพรรณี เจ้าของสูตร ไก่ฮ้อง.......

Monday, March 17, 2008

เต้าหู้ย่างซีอิ๊ว


ส่วนผสม
เต้าหู้อ่อนกึ่งแข็งหั่นชิ้นสี่เหลี่ยม 400 กรัม
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสหอยนางรมเจผสมเห็ดหอม 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา 4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนชา
ขิงสับละเอียด 1 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
งาขาว 1 ช้อนชา
งาดำ 1 ช้อนชา
ขิงดอง
ผักสด เช่น แครอทขูดฝอย ผักสลัด

วิธีทำ
1. ผสมซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรมผสมเห็ดหอม น้ำมันงา น้ำตาลทราย ขิงสับละเอียด พริกไทยป่น คนให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน
2. ใส่เต้าหู้ลงในน้ำซอสปรุงรสข้อ 1 โรยงาขาวและงาดำคลุกเคล้าให้เข้ากันหมักไว้ 20 นาที
3. ย่างเต้าหู้ให้สุกและมีกลิ่นหม ทาด้วยน้ำซอสปรุงรสซ้ำหลายๆครั้ง ขณะย่างเต้าหู้
4. เคี่ยวน้ำซอสปรุงรสที่เหลือจากการหมักเต้าหู้ให้พอเดือด ยกลง
5. จัดเต้าหู้ย่างซีอิ๊วใส่จาน ตกแต่งด้วยผักสลัด แครอทและขิงดอง ราดด้วยน้ำซอสปรุงรสที่เหลือบนเต้าหู้ย่าง จัดเสิร์ฟขณะร้อน

หมายเหตุ
- การเลือกเต้าหู้สำหรับนำมาย่างไม่ควรเลือกชนิดอ่อนหรือแข็งเกินไปเพราะจะทำให้ไม่ได้เนื้อสัมผัสของเต้าหู้และซอสปรุงรสไม่ซึมเข้าไปในเนื้อเต้าหู้
- การย่างสามารถย่างบนกระทะเทฟลอนแบบร่องหรือตะแกรงย่างได้ทั้ง 2 แบบ

เกาเหลาเลือดหมู


ส่วนผสม
หมูเนื้อแดง 200 กรัม
หมูสับ 200 กรัม
ตับหมู 100 กรัม
เซ่งจี๊ 1 ชิ้น
หัวใจหมู 100 กรัม
เลือดหมูหั่นก้อนพอคำ 2 ก้อน
กระดูกสำหรับต้มน้ำซุป 1 กิโลกรัม
ไช้เท้า 1 หัว
ยอด-ใบอ่อนตำลึง 300 กรัม
ขึ้นฉ่ายหั่นฝอย 100 กรัม
กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
เกลือป่น 1 ช้อนชา
เครื่องปรุง
น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว พริกน้ำส้มดอง พริกป่น

วิธีทำ
1. หมูสับเติมน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส คลุกให้ทั่ว พักไว้
2. กระดูกล้างน้ำ แช่ในหม้อนำประมาณ 1 ชั่วโมง นำขึ้นต้มด้วยไฟปานกลาง
3. ปอกไชเท้าให้สะอาด ล้างน้ำหั่นเป็นแว่นๆ หนาประมาณ 1 ซม. ใส่ลงในหม้อพร้อมเกลือป่น
4. ต้มต่อจนน้ำซุปใส่ไชเท้าสุก ใส่หมูบดปรุงรสที่เตรียมไว้ปั้นเป็นก้อนลงในน้ำซุป พอหมูสุกปิดไฟยกลง
5. หมูเนื้อแดงล้างน้ำพร้อมเครื่องในหมู หั่นทุกอย่างเป็นชิ้นๆ ลวกในน้ำร้อนจัดประมาณ 1-2 นาทีให้สุก ช้อนขึ้นแยกไว้เป็นอย่างๆ
6. เลือดหมูต้มน้ำเดือดประมาณ 3 นาที ช้อนขึ้นใส่ชามพร้อมน้ำขลุกขลิก
7. เวลาจะทาน เตรียมชามใส่ตำลึงตามชอบ ใส่เลือดหมู หมูลวก เครื่องในลวก ตักน้ำซุปพร้อมหมูสับที่เดือดจัดใส่ลงในชาม โรยหน้าด้วยขึ้นฉ่ายหั่นฝอยและพริกไทยป่น เสิร์ฟพร้อมเครื่องปรุง และข้าวสวยร้อนๆ